เมื่อเร็วๆนี้ หนังสือพิมพ์ประเทศต่างๆพากันรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจมหภาคของเวียดนาม รายงานบางฉบับเห็นว่า เวียดนามเกิดวิกฤติทางการเงินที่คล้ายกับเมื่อปี 1997 และวิกฤติของเวียดนามยังจะส่งผลกระทบต่อทั่วทั้งเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ และแม้แต่จีนก็ได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แล้วจะเห็นความยากลำบากและปัญหาในระบวนการพัฒนาเศรษฐกิจของเวียดนามได้อย่างไร ในรายการวันนี้ ขอเชิญท่านฟังบทสัมภาษณ์ศาสตรจารย์ฉาวหยูนหัว หัวหน้าสถาบันวิจัยเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ของมหาวิทยาลัยจี้หนัน และผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับปัญหาอาเซี่ยน
เมื่อเร็วๆนี้ ศาสตราจารย์ฉาวหยูนหัวกับเพื่อนร่วมงานหลายคนได้ไปงานที่เวียดนาม พร้อมทั้งกล่าวว่า เมื่อเร็วๆนี้ สถานการณ์เศรษฐกิจของภูมิภาคและของโลกได้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ด้วยผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจสหรัฐและความวุ่นวายของเศรษฐกิจโลก สถานการณ์เศรษฐกิจมหภาคของเวียดนามได้ปรากฎวี่แววที่น่าวิตก เช่น อัตราเงินเฟ้อของเวียดนามสูงขึ้น เหตุการณ์นัดหยุดงานเกิดขึ้นบ่อย มูลค่าของสกุลเงิน Dong เวียดนามลดลงอย่างมาก ตลาดหุ้นเวียดนามหรุดลง ทำให้ธนาคารพาณิชย์บางแห่งขาดสภาพคล่อง และไม่สามารถปล่อยเงินกู้ ถึงแม้ว่า รัฐบาลเวียดนามได้เพิ่มระดับเงินเดือนต่ำสุดให้สูงขึ้นก็ตาม แต่รายได้ของประชาชนยังไม่ทันกับการเติบโตของราคาสินค้า การพัฒนาเศรษฐกิจของเวียดนามประสบกับความยากลำบากที่ร้ายแรง พร้อมๆกับการพัฒนาเศรษฐกิจที่เป็นระยะยาว ในกระบวนการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของเวียดนามมีความขัดแย้งเพิ่มมากขึ้น การปฏิรูประบบเศรษฐกิจการเมืองของเวียดนามได้เข้าสู่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ด้วยเหตุนี้ เมื่อปี 2008 รัฐบาลเวียดนามได้ลดการคาดหมายด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามให้น้อยลง และจากอดีตที่คาดไว้ว่า เศรษฐกิจจะเติบโต 8.5% ลดลงเหลือ 7% และยังประกาศใช้มาตรการต่างๆเพื่อรับมือกับวิกฤติเศรษฐกิจ
เกี่ยวกับสภาวะที่เงินเฟ้อสูงนั้น นักวิชาการบางคนเห็นว่า ปัจจุบัน ปัญหาความเสี่ยงของประเทศในเอเซียอาจจะไม่ใช่ผลกระทบจากวิกฤติซับไพรม์ของสหรัฐ หากเป็นผลกระทบจากเงินเฟ้อ ซึ่งเวียดนามก็เข้าข่ายนี้ เพื่อทำให้ภาวะเงินเฟ้อลดลง เมื่อเร็วๆนี้ รัฐบาลเวียดนามได้ประกาศใช้มาตรการเร่งด่วน 8 ประการ ได้แก่ มาตรการเพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรเพิ่มการผลิตทางการเกษตร ยั้บยั้งการส่งออกธัญญาหาร เพิ่มดอกเบี้ยให้สูงขึ้น หยุดการลงทุนที่ไม่เป็นที่ต้องการทั้งหมด เพิ่มกองทุนให้แก่ธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ให้ความช่วยเหลือแก่ครอบครัวยากจน เป็นต้น
เกี่ยวกับปัญหาทางการเงินนั้น เจ้าหน้าที่รัฐบาลเวียดนามกล่าวว่า การบุกเบิกพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากต้นทุนการก่อสร้างที่เพิ่มสูงขึ้น รัฐบาลเวียตนานได้ให้ความสนใจอย่างสูงในระดับเงินกู้ด้องคุณภาพของธนาคารพาณิชย์
เกี่ยวกับปัญหาการส่งออกลดลง เนื่องจากราคาอาหารเพิ่มสูงขึ้น และส่งผลกระทบร้ายแรงต่อชีวิตชาวบ้านนั้น รัฐบาลเวียตนานได้ตกลงลดการส่งออกให้น้อยลง จากอดีต 4 ล้านตันเหลือ 3.2 ล้านตัน การส่งออกผลิตผลการเกษตรอื่นๆก็ลดน้อยลง นอกจากนั้น รัฐบาลเวียดนามยังตกลงว่า ปีนี้จะลดการส่งออกถ่านหินและวัตถุดิบอื่นๆให้น้อยลงด้วย
1 2
|