เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา การซ้อมรบผสมระหว่างทหารหน่วยรบพิเศษจีน-ไทยที่ชื่อรหัสว่า"strike-2008"ได้สิ้นสุดลงที่เมืองเชียงใหม่ด้วยผลสําเร็จ หลังจากผ่านการฝึกอบรมอย่างตึงเครียดเป็นเวลา 20 วัน ผู้นํากองทัพสองฝ่ายที่เข้าร่วมพิธีปิดกล่าวว่า กองทัพสองประเทศจะร่วมมือต่อไป เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างสองฝ่ายไปสู่ระดับใหม่
ปีที่แล้ว กองทหารหน่วยรบพิเศษของจีนกับไทยได้จัดการซ้อมรบผสมเป็นครั้งแรกในเมืองกวางโจวของจีน การซ้อมรบผสมที่เมืองเชียงใหม่ของไทยครั้งนี้นับเป็นครั้งที่สอง เป็นครั้งแรกที่จีนส่งทหารหน่วยรบพิเศษไปซ้อมรบที่ต่างประเทศเป็นเวลาหลายวัน กองทัพจีนและไทยต่างส่งทหารหน่วยรบพิเศษ 24 นาย เข้าร่วมการซ้อมรบผสมเพื่อต่อต้านการก่อการร้ายที่ค่ายทหารของกองทหารหน่วยรบพิเศษทางบกของประเทศไทย
ในช่วงการซ้อมรบผสมเป็นเวลา 20 วันครั้งนี้ ทหารหน่วยรบพิเศษของจีนและไทยร่วมกันซ้อมรบผสมใน 4 ขั้นตอนที่ภูเขาทางภาคเหนือของไทยอันได้แก่ การฝึกอบรมขั้นพื้นฐาน การฝึกอบรมสมรรถนะ การฝึกอบรมยุทธวิธี และการซ้อมร่วมเป็นต้น ในพิธีปิดการซ้อมรบ ผู้นําของกองทัพสองประเทศได้มอบหนังสือรับรองการซ้อมรบให้แก่ทหารเข้าร่วมการซ้อมรบผสมของกองทัพทั้งสองประเทศ
พันโทหวาง จื้อกางที่เข้าร่วมการซ้อมรบผสมครั้งนี้จากจีนให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า
"อากาศที่เชียงใหม่ค่อนข้างดี ไม่มีการเปลี่ยนแปลงมาก วันนี้มีลมไม่แรง เหมาะกับการกระโดดร่ม นอกจากนี้ กองทัพไทยใช้ร่มแบบอเมริกา คล้ายๆร่มที่เราใช้ควบคุมได้ง่าย"
ร้อยเอกเจนนิตย์ มาวินธร(Janenit Mawinthorn)ทหารไทยที่เข้าร่วมการซ้อมรบผสมครั้งนี้ประทับใจทหารจีนที่ร่วมกันซ้อมรบเป็นเวลา 20 วัน เขากล่าวว่า
"พวกเขาเก่งมาก กระตือรือร้นมาก เราเป็นเพื่อนกัน แม้มีเวลาเีพียง 20 วัน แต่เราก็สนิทเหมือนเพื่อนที่รู้จักมานาน เราเรียนภาษาของกันและกันก่อนเข้าร่วมการซ้อมรบ เจ้าหน้าที่ไทยต้องเรียนคําสั่งภาษาจีน ผมรู้สึกเจ้าหน้าที่จีนพูดภาษาไทยเก่ง"
พลเอกมนตรี ชุมภูจันทร์ เลขาธิการกองทัพบกของไทยที่เข้าร่วมพิธีปิดได้ชื่นชมผลงานการซ้อมรบผสมครั้งนี้ เขากล่าวว่า
"จากการรับฟังการสรุปและการรายงานผู้อํานวยการฝึก นับว่าการฝึกครั้งนี้ได้รับความสําเร็จและบรรลุความประสงค์ตามที่กองทัพทั้งสองประเทศต่างมุ่งหวังไว้เป็นอย่างดี ผมหวังว่าการฝึกผสมรหัสสไตร๊ค์ 2008 จะส่งผลให้มิตรภาพ ความสัมพันธ์ของกองทัพไทยและกองทัพบกฝ่ายประชาชนจีนมีความมั่นคงแน่นแน่นยิ่งขึ้น และนําไปสู่การขยายความร่วมมือระหว่างกันในอนาคตต่อไป"
พลโทหม่า เสี่ยวเทียน รองเสนาธิการใหญ่ของกองทัพปลดแอกประชาชนจีนนําคณะผู้แทนจีนเข้าร่วมพิธีปิด เขาเห็นว่า การซ้อมรบผสมครั้งนี้มีความหมายสําคัญมากต่อการยกความสามารถของกองทัพสองประเทศในการร่วมกันต่อต้านการก่อการร้าย รักษาความมั่นคงและเสถียรภาพส่วนภูมิภาค เขากล่าวว่า
"ในโลกปัจจุบัน สันติภาพ การพัฒนาและความร่วมมือเป็นกระแสหลัก แต่โลกของเรายังไม่ค่อยสงบ โดยเฉพาะปัจจัยคุกคามความปลอดภัยแบบใหม่ที่สําคัญคือลัทธิก่อการร้าย ได้นําการท้าทายร้ายแรงแก่ความมั่นคงและการพัฒนาของประเทศต่างๆในโลก หวังว่ากองทัพจีนและไทยเสริมสร้างความร่วมมือต่อไป กระชับความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างกองทัพสองประเทศไปสู่ระดับใหม่"
(dai/zheng)
|