วันนี้วันที่ 11 กันยายน งานพาราลิมปิกปักกิ่งปี 2008 เข้าสู่วันที่ 5 แล้ว หลายวันมานี้ ในสนามแข่งขัน นักกีฬาพาราลิมปิกต่อสู้อย่างฮึกเหิม ได้สร้างผลการแข่งขันอันดีอยู่เสมอ สร้างเกียรติประวัติแก่ประเทศและตนเอง ในสนามแข่งขันพาราลิมปิกปักกิ่ง ไม่เพียงมีเหรียญรางวัลอันแวววาวเท่านั้น สิ่งที่แวววับยิ่งกว่าก็คือ ท่วงท่าการแข่งขันที่เที่ยงธรรมและจิตใจการต่อสู้อันทรหดห้าวหาญของนักกีฬา
เมื่อคืนวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา นางสาวนาตาเลีย ปาร์ตีคา นักปิงปองแขนเดี่ยวของโปแลนด์ได้สานความฝันของเธอให้เป็นจริงขึ้นในที่สุด ในฐานะที่เป็นนักกีฬาน้อยคนนักที่ได้เข้าร่วมการแข่งขั้นทั้งโอลิมปิกและพาราลิมปิก เธอได้พิชิตนักกีฬาจีนในการแข่งขันปิงปองชิงชนะเลิศประเภทหญิงเดี่ยวระดับ F10 ได้คว้าแชบป์ไปครอง ในงานกีฬาโอลิมปิกปักกิ่งที่สิ้นสุดลงไม่นาน เธอกับเพื่อนๆ ในทีมได้ผลการแข่งขันที่ดีที่สุดในประวัติการแข่งขันปิงปองประเภททีมหญิงของโปแลนด์ สำหรับอนาคต เธอมีเป้าหมายสูงกว่านี้อีก
"ตอนนี้ ความฝันของดิฉันได้เป็นความจริงส่วนหนึ่งแล้ว เพราะดิฉันได้เพียงเข้าร่วมการแข่งขันปิงปองประเภททีมหญิงกีฬาโอลิมปิกเท่านั้น ไม่ได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันประเภทหญิงเดี่ยว ดิฉันยังต้องพยายามอีก หวังว่าในกีฬาโอลิมปิกลอนดอน ดิฉันจะสามารถเข้าร่วมการแข่งขันทั้งประเภทบุคคลและประเภททีม ถึงเวลานั้น จึงกล่าวได้ว่า ความฝันของดิฉันเป็นจริงทั้งหมด แต่พอถึงเวลานั้น ดิฉันก็จะมีความฝันใหม่อีก ซึ่งก็คือ ได้เหรียญรางวัลในงานกีฬาโอลิมปิก"
สิ่งที่นักกีฬาพิการได้รับการยกย่องนั้น มิเพียงผลการแข่งขันเท่านั้น จิตใจนักกีฬาของพวกเขาก็เป็นที่น่ายกย่องด้วย ในการแข่งขันว่ายน้ำชิงชนะเลิศท่าฟรีสไตล์ 400 เมตรหญิงระดับ S13 ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 8 กันยายนนี้ มีนักกีฬา 7 คนหลังการว่ายได้ 50 เมตร แล้วก็หยุดว่าย ขึ้นจากสระว่ายน้ำเพื่อรอแข่งใหม่ เนื่องเพราะมีนักกีฬาหญิงชาวออสเตรเลียคนหนึ่งไม่ได้ยินเสียงสัญญาณการแข่งขัน
นักกีฬาระดับ S13 มีปัญหาทางสายตา เมื่อได้ยินเสียงสัญญาณการแข่งขันแล้ว นักกีฬาที่อยู่ในสาย 1-7 ล้วนกระโดดลงน้ำ เหลือเพียงนางสาววัน รูสมาเลน เทย์กัน นักกีฬาออสเตรเลียในสาย 8 ยังคงอยู่ในท่าเตรียมกระโดด ภายหลังพบว่า เธอมีอุปสรรคทั้งทางสายตาและการฟัง ดังนั้นต้องอาศัยไฟสัญญาณที่อยู่ข้างๆ แต่เมื่อนักกีฬาคนอื่นกระโดดลงไปแล้ว ไฟสัญญาณของเธอกลับไม่สว่างเลย
เพื่อความเที่ยงธรรม ผู้ตัดสินตกลงให้เริ่มแข่งขันใหม่ เมื่อได้ทราบข่าวนี้ นักกีฬาอื่นๆ 7 คนต่างก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เมื่อเสียงสัญญาณดังขึ้นใหม่ ไฟสัญญาณสีเหลืองก็สว่างขึ้น เทย์กันกับนักกีฬาคนอื่นๆ กระโดดลงน้ำพร้อมกัน และเริ่มการแข่งขันใหม่
นายลูคา พันคาล์ลี ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกอิตาลีเห็นว่า นักกีฬาพาราลิมปิกปักกิ่งไม่เพียงแต่ได้แสดงออกซึ่งจิตใจการต่อสู้ หากยังทำให้ทั่วโลกได้เข้าใจถึงความสุขของคนพิการจากการแข่งขันและเอาชนะตนเอง
"นักกีฬาพาราลิมปิกกว่า 4,000 คนจากประเทศต่างๆ สะท้อนความงามสง่าของตนบนเวทีกีฬาสำคัญแห่งนี้ พวกเขาไม่รู้สึกว่าต่ำต้อยกว่าคนอื่น หากกลับได้รับความปิติยินดีและความสำเร็จเฉกเช่นนักกีฬาโอลิมปิก จากการแสดงออกที่งามสง่าของนักกีฬาพิการ พวกเราหวังว่าจะช่วยให้คนพิการที่ยังไม่ได้สัมผัสรับรู้ความสุขของกีฬาได้รับทราบว่า การกีฬาสามารถช่วยให้พวกเขาซาบซึ้งถึงความปิติยินดีในชีวิต และความสุขที่หลอมตัวเข้ากับสังคมได้มากยิ่งขึ้น"
(Qiu/Ldan)
|