China Radio International
ข่าวภายใน
    ประเทศ
ข่าวต่างประเทศ
 ข่าวการเมืองและ
 การต่างประเทศ
 ข่าวเศรษฐกิจ
 ข่าววัฒนธรรม

 ข่าววิทยาศาสตร์
  เทคโนโลยี่

 ข่าวกีฬา
 ข่าวอื่น
วันที่ 13 พฤศจิกายน ปี ค.ศ.2009
อ่านต่อ>>

จีนปัจจุบัน

เศรษฐกิจ

พาเที่ยวจีน

วัฒนธรรม

ชนชาติส่วนน้อย

การเมือง
(GMT+08:00) 2008-09-12 15:23:32    
บทสัมภาษณ์หัวหน้าผู้ฝึกสอนวีลแชร์เรสซิ่งของไทย (ภ)

cri

เมื่อวันที่ 9 สิงหาคมนี้ ที่สนามกีฬารังนก การแข่งขันวิ่งผลัด 4*100 วิลแชร์เรสซิ่ง T53/54 นายศุภชัย โกยทรัพย์ นายสายชล คนเจน นายประวัติ วะโฮรัมย์ และนายพิเชษฐ์ กรุงเกตุ นักกีฬาทีมชาติไทยได้เหรียญเงินด้วยเวลา 51.93 วินาที นับเป็นเหรียญแรกที่นักกีฬาไทยได้รับจากในพาราลิมปิกเกมส์ปักกิ่ง ในรายการวันนี้ผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอได้สัมภาษณ์นายสุพรต เพ็งพุ่ม หัวหน้าผู้ฝึกสอนวีลแชร์เรสซิ่ง ต่อไปขอเชิญท่านฟังบทสัมภาษณ์ค่ะ

นายสุพรต เพ็งพุ่ม:ก่อนหน้านี้ไทยเป็นแชมป์มา 2 สมัยแล้ว มาเสียแชมป์ให้เจ้าภาพที่นี่ แต่ก็ไม่ซีเรียส คือเราก็ทําใจมาแล้วตั้งแต่อยู่เมืองไทย เพราะว่านักกีฬาของเราตามปกติแล้วทุกคนต้องสมบูรณ์มากกว่านี้ทุกครั้งไปแข่งขัน แต่ครั้งนี้มันจะมีบางคนมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของการบาดเจ็บ มันจึงเรื้อรังมาตลอด เลยทําให้สภาพทีมงานไม่สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์

ผู้สื่อข่าว:ช่วยแนะนํานักกีฬาแต่ละคนค่ะ

นายสุพรต เพ็งพุ่ม:สําหรับนักกีฬาของเรานั้น 4 คน ประกอบด้วย คุณพิเชษฐ์ กรุงเกตุ คุณสายชล คนเจน คุณศุภชัย โกยทรัพย์และคุณประวัติ วะโฮรัมย์

ผู้สื่อข่าว?แต่ละคนเล่นกีฬามานานไหมคะ

นายสุพรต เพ็งพุ่ม?สามคนเล่นตั้งแต่ปี 1999 สายชลเป็นนักกีฬาใหม่ พึ่งมาแข่งพาราลิมปิกครั้งแรก ศุภชัย 3 ครั้ง ประวัติก็ 3 ครั้ง ส่วนพิเชษฐ์ครั้งนี้ครั้งที่ 2 แต่นักกีฬาเก่า มันจะมีเรื่องปัญหาเกี่ยวกับบาดเจ็บ ก็เลยซ้อมได้ไม่สมบูรณ์ มาที่นี่เราก็คิดว่าทีมเราก็คงจะเสียแชมป์ แต่ว่าเราก็ไม่ได้บอกกับนักกีฬา เพราะว่าเราก็มีความมั่นใจในสภาพทีมของเรามาแล้ว เพราะว่าเราทดสอบเวลา คือตามปกติเราก็ซ้อมมากกว่านี้ แต่ว่าซ้อมน้อย การเก็บตัวฝึกซ้อมก็ไม่ค่อยจะสมบูรณ์ การเตรียมตัวค่อนข้างน้อย ซึ่งเมื่อเราเปรียบเทียบกับทางเจ้าภาพแล้ว คิดว่าเขาต้องร้อยเปอร์เซ็นต์แน่นอน เพราะว่านักกีฬาชุดนี้เล่นกันมานานแล้ว อีกอย่างหนึ่ง เขาจะได้เปรียบเกี่ยวกับเรื่องของความพิการ คือเขาเป็นคนขาขาด เมื่อขาขาดในส่วนของแรงส่งที่ขาในส่วนนําตัวในส่วนของแขนก็จะได้เปรียบดีมากกว่านักกีฬาที่พิการมาแต่กําเนิด คือเราก็จะเห็นชัดเจนในเรื่องของความแตกต่าง การได้เปรียบการเสียเปรียบ

ผู้สื่อข่าว?ทั้ง 4 คนนี้คราวนี้เสียแชมป์ไปรู้สึกว่าเสียใจไหมคะ

นายสุพรต เพ็งพุ่ม?ไม่ซีเรียสครับ เพราะว่ากีฬามันก็คือกีฬา ถ้าเราเตรียมตัวมาไม่ดี แล้วก็ผิดพลาดมาก มันก็มีโอกาสแพ้ แต่ถ้าเกิดว่าเราเตรียมตัวมาดี ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องบาดเจ็บเรื่องอะไรต่างๆ โอกาสที่ผิดพลาดมันจะน้อย ระยะที่แข่งขันก็ต้องพยายามทําให้ดีที่สุด พยายามที่จะต้องนําเหรียญทองกลับประเทศไทยให้ได้ เพื่อที่จะได้ให้คนไทยและประเทศไทยชื่นชม แต่ขณะนี้นักกีฬาของเราอายุมากแล้ว แต่ถ้าเกิดเปรียบสภาพกับนักกีฬาต่างประเทศ สภาพความเป็นอยู่ในประเทศกับสภาพความเป็นอยู่ต่างประเทศ ความแตกต่างมันก็จะแตกต่างกัน เพราะฉะนั้น การบํารุงดูแลรักษาเกี่ยวกับเรื่องของสุขภาพ เกี่ยวกับเรื่องของตัวนักกีฬา มันก็จะแตกต่างกันไป คือนักกีฬาต่างประเทศเขาโอเค มีความเป็นอยู่ดี มีความดูแลคนพิการดี เขาไม่มีปัญหา คือเขาก็จะซ้อมได้รักษาสุขภาพได้ตลอดเวลา แต่ถ้าเกิดเป็นนักกีฬาของเรา มันจะต้องช่วยเหลือตัวเองเป็นหลัก นอกจากเวลาใกล้ๆจะแข่งขัน ซึ่งเรามีการเก็บตัว ฝึกซ้อมเป็นครั้งๆเฉพาะ แล้วมาแข่ง ถ้าเกิดว่าในช่วงตรงนั้นถ้าใครรักษาสุขภาพดูและสุขภาพดี ก็ยังเล่นได้อีกนาน เหมือนอย่างนักกีฬาที่มาแข่งกัน อายุเยอะก็มี ประสบความสําเร็จกันหลายคน 40 กว่า 50 กว่าก็มี อันนี้คือความแตกต่างเห็นชัดเจน เพราะฉะนั้น กีฬาคนพิการ อายุเป็นเพียงตัวเลข ถ้ายังมีชีวิตอยู่ คิดว่าโอกาสก็ยังมีอยู่ ถ้าเกิดว่าเราไม่ท้อแท้ เราไม่หมดความมานะพยายาม รับรองเราก็ยังมีโอกาสอยู่ แต่ถ้าเกิดว่าเราไปท้อ เราหมดความอดทน ไม่มีความมานะพยายาม มันก็หมดไปแล้ว