"ดีใจมากและตื่นเต้นมาก เรารอวันนี้มาหลายปีแล้ว ลู่โหย่งได้สร้างเกียรติประวัติให้ประเทศเราและให้บ้านเกิดของเราด้วย"
ส่วนหลัน เอี้ยนหยุน ครูสอนการยกน้ำหนักคนแรกของลู่โหย่งดีใจและตื่นเต้นไม่น้อยกว่าพ่อแม่ของลู่โหย่ง เมื่อลู่โหย่งอายุ10ขวบ หลัน เอี้ยนหยุน ครูสอนการยกน้ำหนักของโรงเรียนกีฬาอำเภอซานเจียงของกวางสีได้เลือกเขา และฝึกเขายกน้ำหนักเป็นเวลา6ปี หลัน เอี้ยนหยุนกล่าวว่า
"เมื่อสมัยเด็กๆหลายคนยกครั้งเดียวก็นั่งพักผ่อน แต่เขาไม่เหมือนคนอื่น เขายกครั้งหนึ่งแล้วก็จะฝึกท่าการยกพื้นฐานต่อ ขยันมาก และรับฟังคำสอนของครูอย่างตั้งใจ ไม่ว่ามีแรงกดดันหนักถึงขนาดไหน เขาก็มีความยืดหยุ่นและมีความขยันหมั่นเพียรมากกว่าเด็กคนอื่นๆ"
ส่วนลู่โหย่งเองก็รู้สึกว่า ด้วยความขยันและความพยายามของตน เขาจึงสามารถทำให้ความฝันของตนเป็นความจริงได้ในการแข่งขันโอลิมปิก
"ผมเลือกการยกน้ำหนักแล้ว ผมก็จะไม่ละทิ้งง่ายๆ เพราะฉะนั้น ผมจึงสามารถก้าวหน้ามาถึงวันนี้ได้"
นี่คือนายลู่โหย่ง หนุ่มชาวต้งที่ขยันและแข็งแรง เขาบอกว่า หลังจากงานกีฬาโอลิมปิกปักกิ่ง เขาจะพยายามพัฒนาตนเองต่อไป เพื่อก้าวหน้าสู่ระดับที่สูงขึ้นด้วยจิตใจห้าวหาญและการก้าวที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ท่านผู้ฟังคะ รายการของวันนี้ขอยุติลงเพียงเท่านี้ ขอบคุณที่รับฟัง สวัสดีค่ะ
(Ren)
1 2
|