นายเฉิน เจี่ยนหมิน ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันแผ่นดินไหวแห่งประเทศจีนรายงานแนวความคิดการปรับปรุงแก้ไข "กฎหมายป้องกันแผ่นดินไหวและบรรเทาภัย"ในครั้งนี้ต่อคณะกรรมการประจำสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติว่า

"บนพื้นฐานแห่งการสรุปประสบการณ์การป้องกันแผ่นดินไหวและบรรเทาภัย ได้ปรับปรุงแก้ไขข้อกฎหมายที่ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ใหม่ สำหรับผลสำเร็จจากการป้องกันแผ่นดินไหวและบรรเทาภัย โดยเฉพาะประสบการณ์จากการกู้ภัยแผ่นดินไหวเสฉวนจะระบุเข้าไว้ในกฎหมาย เสริมสร้างกลไกป้องกันภัยแผ่นดินไหว ทำให้หน่วยงานกู้ภัยมีความชำนาญและให้บริการดียิ่งขึ้น เพิ่มแรงต้านทานแผ่นดินไหวของอาคารก่อสร้างให้สูงขึ้น เสริมศักยภาพของรัฐบาลและประชาชนในด้านการป้องกันแผ่นดินไหวและบรรเทาภัย ลดความเสียหายจากแผ่นดินไหวให้น้อยลง"

ร่างกฎหมายได้เพิ่มเติมเนื้อหาเกี่ยวกับการวางแผนป้องกันแผ่นดินไหวและบรรเทาภัย การฟื้นฟูและดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนผู้ประสบภัยหลังภัยแผ่นดินไหว ตลอดจนการกำกับดูแล ได้ปรับปรุงข้อกำหนดเกี่ยวกับการตรวจสอบและพยากรณ์ การป้องกัน การกู้ภัยอย่างทันท่วงทีและการบูรณะฟื้นฟูหลังภัยแผ่นดินไหวให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

ในเนื้อหาดังกล่าว มี 3 ด้านดึงดูดความสนใจมากที่สุด ได้แก่

หนึ่ง.เพิ่มความต้านทานแผ่นดินไหวของอาคารโรงเรียน โรงพยาบาล และสิ่งปลูกสร้างที่คนหนาแน่น โดยระบุอย่างชัดเจนว่า สิ่งก่อสร้างประเภทโรงเรียน โรงพยาบาลควรสามารถต้านทานแผ่นดินไหวมากกว่าอาคารบ้านพักทั่วไป สำหรับสิ่งก่อสร้างที่สร้างเสร็จแล้วแต่ไม่ได้มาตรฐาน ต้องเพิ่มความแข็งแกร่งให้มากขึ้น ขณะเดียวกัน ต้องประชาสัมพันธ์ให้ชาวชนบทเพิ่มความตระหนักต่อแผ่นดินไหว นอกจากนี้ ร่างกฎหมายยังกำหนดให้โรงเรียนจัดวิชาความรู้การรับมือกับแผ่นดินไหวบรรจุไว้ในตำราเรียน เพิ่มจิตสำนึกด้านความปลอดภัย และความสามารถในการช่วยชีวิตตนเองและช่วยชีวิตเพื่อนๆของนักเรียน

สอง.เกี่ยวกับปัญหาการจัดการดูแลผู้ประสบภัยที่เป็นที่สนใจกันอย่างกว้างขวาง ร่างกฎหมายระบุอย่างชัดเจนว่า ต้องคำนึงถึงความต้องการของผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่ สำหรับขั้นตอนการบูรณะฟื้นฟู การเลือกสถานที่ การให้ความช่วยเหลือทางจิตใจ ร่างกฎหมายก็มีข้อกำหนดอย่างชัดเจน นายเฉิน เจี้ยนหมินกล่าวว่า

"การดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนผู้ประสบภัย เป็นขั้นตอนสำคัญในการดูแลความทุกข์สุขของผู้ประสบภัย และรักษาความสงบเรียบร้อยและระเบียบสังคม และเป็นพื้นฐานของการบูรณะฟื้นฟูเขตประสบภัย เพื่อให้งานดังกล่าวเป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น ร่างกฎหมายได้ กำหนดชัดเจนเกี่ยวกับการวางแผน การเลือกสถานสร้างบ้านใหม่ การใช้ที่ดิน หน้าที่ความรับผิดชอบของรัฐบาลในการดูแลประชาชนและฟื้นฟูการผลิต"

เพื่อประกันให้ใช้เงินและสิ่งของบรรเทาภัยอย่างเปิดเผยและโปร่งใส ร่างกฎหมายไม่เพียงแต่กำหนดให้รัฐบาลระดับต่างๆต้องมีการบันทึกต่อการรับเงินและสิ่งของบริจาค การจัดสรรเงินและสิ่งของบรรเทาภัย และระบุอย่างชัดเจนว่า แผนการจัดสรรเงินและสิ่งของบรรเทาภัยตลอดจนบ้านอยู่อาศัย ต้องผ่านการลงประชามติ จึงจะประกาศใช้ได้ รัฐบาลจะลงโทษพฤติกรรมยึดครอง การโยกย้ายเงินและสิ่งของบรรเทาภัยอย่างเข้มงวดตามกฎหมาย

นอกจากนี้แล้ว ร่างกฎหมายยังระบุว่า การพยากรณ์แผ่นดินไหวต้องประกาศโดยรัฐบาล หน่วยงานและบุคคลเมื่อพบปรากฏการณ์ที่ผิดปกติ?ควรแจ้งให้หน่วยงานแผ่นดินไหว ร่างกฎหมายยังได้เน้นการพัฒนาหน่วยกู้ภัยฉุกเฉินและการประสานงานกับองค์การกู้ภัยระหว่างประเทศด้วย

Min/Lu