นัส และด้วยโชควาสนานำพา ทำให้นางถูกเรียกเข้าสู่ราชสำนักของพระเจ้าจักรพรรดิเสียนเฟิงในฐานะนางกำนัล ในปี1852 ค่ะ และด้วยความที่นางเป็นหญิงงาม และร้องเพลงได้ไพเราะ จึงเป็นที่โปรดปรานของพระเจ้าเสียนเฟิง ถึงกับแต่งตั้งให้เป็นสนม หลังจากนั้นนางได้วางแผนกับขันที่คนสนิทลิเลียนยิงว่าทำอย่างไรถึงจะรักษาอำนาจของตนหลังฮ่องเต้พระองค์นี้สิ้นได้
หน่า ขันทีผู้นี้จึงตอบว่าพระนางจะต้องมีพระโอรส เพราะฮ่องเต้ยังไม่มีลูกกับฮองเฮาและสนมคนใดเลย นางจึงมีความพยายามอย่างมาก จนในที่สุดก็ตั้งครรภ์ และมีพระโอรสมาให้ฮ่องเต้ชื่นชมได้ในที่สุดค่ะ
นัส ฮ่องเต้เมื่อได้เห็นทารกน้อยก็ทรงปลื้มกับพระโอรสมาก จึงได้แต่งตั้งนางขึ้นเป็นฮองเฮาฝ่ายตะวันตก ส่วนฮองเฮาคนก่อนหรือฉีอันไทเฮาเป็นฮ่องเฮาฝ่ายตะวันตกคะ แต่หลังจากนั้นไม่นานฮ่องเต้เสียนเฟิง ก็ได้สวรรคตลง และเนื่องจากมเหสีคนแรกของพระเจ้าเสียงเฟิงไม่มีพระโอรส ก่อนสวรรคต พระองค์ทรงทำพินัยกรรมราชสมบัติให้แก่พระราชโอรสที่เกิดจากพระนางคะ
หน่า แต่เนื่องจากพระราชโอรสยังทรงเยาว์นัก มีอายุเพียงแค่ 5 ชันษาเท่านั้น จึงโปรดให้มีคณะผู้สำเร็จราชการ ทรงตั้งให้พระนางและฉีอันไทเฮา ร่วมกับคณะผู้สำเร็จราชการอื่นอีก 2 คน คือ พระนางซูอัน มเหสีเอก กับ เจ้าฟ้าชายกุง ผู้เป็นอนุชา แล้วพระเจ้าเสียนเฟิงก็เสด็จสวรรคตในปี 1861รวมแล้วพระองค์มีอายุเพียง 30 ปีเท่านั้นคะ
นัส เรื่องราวหลังจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อไปนัสว่าคงจะต้องมาติดตามกันต่อในช่วงหลังพักฟังเพลงในเบรกนี้แล้วหล่ะคะ โดยเพลงที่นัสเลือกมาในวันนี้เป็นเพลงที่กำลังฮ็อตฮิตติดชาร์จอยู่ในจีนตอนนี้คะ เพลงนี้ร้องโดยนักร้องสาว และเด็กชายตัวน้อย เฉียวมู่หนาน กับวงคอรัสตัวน้อยๆ ในเพลง หรืออนาคตที่สดใสคะ แล้วหลังเพลงนี้เรากลับมาคุยกันต่อนะคะ
หน่า เอาหล่ะคะฟังเพลงเพราะๆจบกันไปแล้วตอนนี้เรากลับมาฟังเรื่องราวของพระนางซูสีไทเฮากันต่อคะ หลังจากที่พระเจ้าเสียนเฟิงเสด็จสวรรคตแล้ว นางได้เปลี่ยนชื่อจากเยโฮนาลา มาเป็น ซูสี และออกว่าราชการคู่กับ ฉีอันไทเฮา
นัส ทั้งสองพระนางก็ได้ออกว่าราชการหลังม่านไม้ไผ่แทนจักรพรรดิองค์น้อยถงจื้อ ซึ่งก็เป็นอย่างนี้เรื่อยมาจนกระทั่งฮ่องเต้น้อยถงจื้อเป็นโตเป็นหนุ่มได้ 17 ชันษา ก็เริ่มคิดแข็งข้อกับพระนางซูสีไทเฮามากขึ้น ในที่สุดพระนางจึงให้ขันทีลิเลียนยิงลอบปลงพระชนม์ฮ่องเต้ถงจื้อผู้นี้คะ
หน่า จากนั้นพระนางจึงได้ฝ่าฝืนกฏการสืบสันตติวงศ์ โดยการนำหลานชายที่เป็นลูกชายของน้องสาวแท้ๆ นาม กวางซวี ซึ่งขนาดนั้นมีอายุเพียง 3 ขวบ ขึ้นมาเป็นฮ่องเต้แทนฮ่องเต้ถงจื้อคะ
นัส หลังจากที่ฮ่องเต้น้อยกวางสูขึ้นครองราชย์ สองสตรีสองผู้สำเร็จราชการก็ยังคงปฏิบัติหน้าที่ว่าราชการผ่านหลังม่านไม้ไผ่คอยชักใยฮ่องเต้อยู่เบื้องหลังต่อไป มาจนกระทั่งถึงปี1881 เมื่อฉีอันไทเฮาสิ้นพระชนม์ ซูสีไทเฮาจึงได้เข้ามายึดอำนาจแบบเบ็ดเสร็จ และเป็นผู้หญิงผู้ทรงอิทธิพลสูงสุดคนหนึ่งของประวัติศาสตร์จีนคะ
1 2 3
|