สํานักข่าวซินหวารายงานว่า เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชนจีนกล่าวที่กรุงปักกิ่งว่า "โครงการปฏิบัติการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ"ที่จะกําหนดขึ้นนั้นจะมีความสําคัญในประวัติศาสตร์การพัฒนาสิทธิมนุษยชนของจีน และส่งผลสําคัญต่อการพัฒนาสิทธิมนุษยชนของจีนในอนาคต

เมื่อเร็ว ๆ นี้ สํานักงานสารนิเทศแห่งคณะรัฐมนตรีจีนระบุว่า รัฐบาลจีนตกลงกําหนด"โครงการปฏิบัติการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ" และวางแผนพัฒนาภารกิจสิทธิมนุษยชนจีนใน 2 ปีข้างหน้า นายต่ง หยูนหู่ อุปนายกและรองเลขาธิการสมาคมวิจัยสิทธิมนุษยชนจีนกล่าวว่า ปีนี้เป็นปีที่จีนดําเนินการปฏิรูปและเปิดประเทศสู่ภายนอกครบรอบ 30 ปี รัฐบาลจีนกําหนดโครงการปฏิบัติการสิทธิมนุษยชนจึงมีความหมายพิเศษ ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาแห่งชาติที่มีประเด็นสิทธิมนุษยชนเป็นหลักฉบับแรกของจีน เป็นการปฏิบัติตามหลักการที่ว่า"ประเทศเคารพและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน"ซึ่งเป็นหลักการของรัฐธรรมนูญ และเป็นการกระทําสําคัญที่รัฐบาลจีนปฏิบัติตามวิสัยทัศน์การพัฒนาทางวิทยาศาตร์ที่ถือมนุษย์เป็นหลัก

แหล่งข่าวแจ้งว่า เนื้อหาของ"โครงการปฏิบัติการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ"จะรวมทั้งการปรับปรุงสมรรถนะของรัฐบาล ขยายประชาธิปไตย เสริมสร้างการปกครองตามกฎหมาย ปรับปรุงการดํารงชีวิตของประชาชน สิทธิพิเศษที่คุ้มครองสตรีื เด็ก ชนชาติส่วนน้อย การเพิ่มจิตสํานึกเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนของทั้งสังคม และด้านอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชน เป็นต้น

สิทธิทรัพย์สินส่วนบุคคล

ผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 มีนาคมปี 2004 การประชุมครั้งที่ 2 ของสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีนชุดที่ 10 ได้พิจารณาผ่านร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 4 โดยกําหนดอย่างชัดเจนว่า"ทรัพย์สินที่ชอบด้วยกฎหมายของพลเมืองจะไม่ถูกยึด""ประเทศคุ้มครองสิทธิทรัพย์สินส่วนบุคคลและสิทธิสืบทอดมรดกของพลเมืองตามกฎหมาย"และ"เพื่อความต้องการด้านสาธารณประโยชน์ ประเทศสามารถเรียกคืนทรัพย์สินส่วนบุคคลของพลเมืองและให้ค่าชดเชยตามกฎหมาย" โดยได้ยอมรับสิทธิทรัพย์สินส่วนบุคคล และปรับปรุงระบบคุ้มครองสิทธิทรัพย์สินส่วนบุคคลมากยิ่งขึ้น นับเป็นครั้งแรกที่จีนระบุการยอมรับสิทธิทรัพย์สินส่วนบุคคลในรัฐธรรมนูญ พร้อมกําหนดว่าสิทธิทรัพย์สินส่วนบุคคลเป็นสิทธิพื้นฐานของพลเมือง

เนื่องจากได้รับผลกระทบจากทฤษฏีวางแผนเศรษฐกิจที่มีมาช้านาน ชาวจีนเน้นผลประโยชน์ของประเทศและผลประโยชน์สังคมมากเกินไปในอดีต เน้นนโยบายคุ้มครองทรัพย์สินส่วนรวม ไม่ค่อยสนใจการคุ้มครองสิทธิทรัพย์สินส่วนบุคคล จึงทําให้เกิดสภาพไม่เสมอภาคในหลักการคุ้มครองสิทธิทรัพย์สิน ทําให้เกิดปัญหาทางสังคมบ้าง

ฉะนั้น สิทธิทรัพย์สินส่วนบุคคลที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญมีความหมายสําคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจที่มีระบบไม่ใช่กรรมสิทธิ์ของรัฐให้ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นผลดีในการยืนหยัดและปรับปรุงระบบเศรษฐกิจพื้นฐานในขั้นต้นของสังคมนิยม ส่งเสริมการพัฒนาของระบบเศรษฐกิจไม่ใช่กรรมสิทธิ์ของรัฐเท่านั้น หากยังเป็นผลดีต่อการระดมให้ประชาชนใช้ความพยายามสร้างสังคมที่มีความสมบูรณ์ระดับปานกลางด้วย