เมื่อวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา รัฐบาลไทยประกาศว่า เนื่องจากเมื่อเร็วๆ นี้ สถานการณ์ภายในประเทศไม่มั่นคง จึงตกลงที่จะเลื่อนการจัดการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 14 จากเดือนธันวาคมปี 2008 ที่กำหนดไว้แต่เดิมเป็นเดือนมีนาคมปี 2009
เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 1967 ผู้แทนจากอินโดนีเซีย สิงคโปร์ ไทย ฟิลิปปินส์ และมาเลเซียจัดการประชุมที่กรุงเทพฯ และได้ประกาศ"แถลงการณ์ว่าด้วยการสถาปนาสมาคมประชาชาติเอเฉียตะวันออกเฉียงใต้"ซึ่งก็คือ"แถลงการณ์กรุงเทพฯ"โดยประกาศสถาปนาอาเซียนอย่างเป็นทางการ เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2007 ที่ผ่านมา ผู้นำ 10 ประเทศอาเซียนได้ลงนาม"กฎบัตรอาเซียน"ในที่ประชุมผู้นำครั้งที่ 13 ที่สิงคโปร์ ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียนประกาศว่าจะประกาศใช้กฎบัตรดังกล่าวมีผลบังคับใช้ในปลายปี 2008 นับเป็นเอกสารที่มีผลบังคับทางกฎหมายอย่างทั่วถึงต่อประเทศอาเซียนฉบับแรกในช่วง 40 ปีนับตั้งแต่อาเซียนสถาปนาขึ้นเป็นต้นมา ซึ่งมีความหมายสำคัญในกระบวนการรวมอาเซียนเป็นแบบองค์เดียว การประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 14 เดิมกำหนดจะจัดที่กรุงเทพฯ ทั้งนี้ก็เพื่อจัดพิธีฉลองการประกาศใช้กฎบัตรอาเซียนอย่างเป็นทางการที่วังสราญรมย์ ในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ 5 ประเทศผู้ริเริ่มก่อตั้งอาเซียนลงนามใน"แถลงการณ์กรุงเทพฯ"เมื่อปี 1967
แต่ทว่า เนื่องจากความวุ่นวายของสถานการณ์ไทย เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา รัฐบาลไทยตกลงที่จะเปลี่ยนสถานที่จัดการประชุมสุดยอดอาเซียนเป็นจังหวัดเชียงใหม่ ภาคเหนือของไทย แม้ว่าขณะนี้ การประท้วงยุติลงแล้ว แต่สถานการณ์ทางการเมืองของไทยยังยากที่จะมีความสงบเรียบร้อยโดยสิ้นเชิงในเร็ววัน รัฐบาลก็ไม่มีเวลาพอที่จะเตรียมการประชุมสุดยอด ดังนั้น เมื่อวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีจึงผ่านข้อเสนอของกระทรวงการต่างประเทศไทยที่เสนอให้เลื่อนการจัดการประชุมสุดยอดอาเซียนและการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออกเป็นเดือนมีนาคมปี 2009
สำนักงานเลขานุการอาเซียนและบางประเทศสมาชิกมีความเห็นต่างกันเกี่ยวกับการเลื่อนเวลาจัดการประชุมสุดยอด เมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียนประกาศคำแถลงของสำนักงานเลขานุการอาเซียน ณ กรุงจาการ์ตา เมืองหลวงอินโดนีเซีย โดยขอบคุณการตัดสินใจของไทยซึ่งได้พิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบด้านแล้ว
ส่วนสิงคโปร์แสดงความผิดหวังต่อการณ์นี้ กระทรวงการต่างประเทศสิงคโปร์กล่าวว่า ปัจจุบัน วิกฤติการเงินโลกได้ส่งผลกระทบต่อประเทศอาเซียนทุกประเทศ เนื่องจากความเร่งด่วนของสถานการณ์ การประชุมสุดยอดอาเซียนควรจัดขึ้นโดยเร็ว ถ้าหากไทยไม่สามารถจัดการประชุมสุดยอดได้ในเร็ววัน ก็ควรที่จะพิจารณาให้อำนวยการการประชุมครั้งนี้ที่กรุงจาการ์ตา ที่ตั้งของสำนักงานเลขานุการอาเซียนในฐานะที่เป็นประเทศประธานหมุนเวียน ก่อนหน้านี้ นายซูซิโล บัมบัง ยูโดโยโน ประธานาธิบดีอินโดนีเซียกล่าวว่า ถ้าหากไทยยังไม่สามรถควบคุมสถานการณ์ได้ อินโดนีเซียยินดีที่จะจัดรายการประชุมบางส่วนของการประชุมสุดยอดครั้งนี้ ส่วนนายราอิส ยาติม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซียกล่าวว่า จะจัดการประชุมสุดยอดเมื่อไหร่ยังต้องรับฟังความเห็นของรัฐบาลชุดใหม่ของไทย 9 ประเทศอาเซียนอื่นๆ จะรอคอยผลคืบหน้าเกี่ยวกับการประชุมสุดยอด เขายังเห็นว่า ความวุ่นวายของสถานการณ์ไทยเป็นกิจการภายใน ประเทศอื่นๆ ในอาเซียนไม่ควรแทรกแซงทั้งนั้น
รัฐบาลไทยได้แสดงแล้วว่า เกี่ยวกับกำหนดเวลาของการจัดประชุมสุดยอดนั้น ไทยจะปรึกษาหารืิอกับประเทศอาเซียนอีก 9 ประเทศก่อน ทว่า ยังมีสื่อมวลชนชี้ว่า หากปัญหาการเลื่อนเวลาจัดประชุมสุดยอดไม่สามารถแก้ไขอย่างทันกาล อาจทำให้ปัญหา"กฎบัตรอาเซียน"สลับซับซ้อนยิ่งขึ้นก็ได้
(Qiu/cici)
|