เมื่อกล่าวถึงโครงการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างจีน-ไทย ท่านฉินนับคล่องเหมือนนับสมบัติในบ้านของตน โดยเลือกการแลกเปลี่ยนทางพุทธศาสนามาเล่าให้ฟังก่อน
ท่านแนะนำว่า "รัฐบาลไทยได้อัญเชิญพระสารีริกธาตุข้อนิ้วพระหัตถ์ไปประดิษฐานเป็นการชั่วคราวที่ประเทศไทยระหว่างเดือนพฤศจิกายน 1995 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 1996 รวม 75 วัน เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวโรกาสเถลิงถวัลย์ราชสมบัติครบ 50 ปี และเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ ๒๐ ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับจีน ในครั้งนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระสังฆราชทรงเสด็จสักการะบูชาด้วย
ระหว่างเดือนธันวาคม ปี 2002 ถึง เดือนกุมภาพันธ์ ปี2003 รัฐบาลไทยได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุพระเขี้ยวแก้วสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่ชาวจีนเคารพนับถือและหวงแหนไปประดิษฐานชั่วคราวที่พุทธมณฑลอีกครั้ง
ท่านฉินบอกว่า ผมประทับใจในความเลื่อมใสศรัทธาของพุทธศาสนิกชาวไทย แม้ว่าอากาศร้อน แต่ประชาชนไทยเดินทางหลายร้อยกิโลเมตร หลั่งไหลไปทำบุญอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง เนื่องจากมีคนจำนวนมหาศาล ต้องเข้าแถวรอสามสี่ชั่วโมง แต่คนที่รออยู่นั้น มีนั่งสมาธิบ้าง สวดมนต์บ้าง หรืออ่านคู่มือความเป็นมาของพระสารีริกธาตุพระเขี้ยวแก้วอย่างมีระเบียบวินัย ผมคิดว่า มีคนจำนวนมหาศาลเลือกทำบุญเพื่อละทิ้งกิเลส นับเป็นประโยชน์ต่อสังคมยิ่ง
ท่านฉินเล่าอีกว่า เมื่อเดือนธันวาคมปี 2003 จีนจัดสัปดาห์วัฒนธรรมธิเบตจีนที่ประเทศไทย โดยจัดส่งชีวพุทธ Living Buddha 3 รูป ผู้เชี่ยวชาญด้านทิเบตศึกษาสองท่าน และนักแสดงชนชาติทิเบตกว่า 70 คนไปจัดการแสดง จัดการประชุมสัมมนา และนิทรรศการตามพื้นที่ต่างๆ ของไทย ก่อกระแสความร้อนแรงเกี่ยวกับทิเบตในประเทศไทย มิตรชาวไทยกว่าสี่หมื่นคนมีโอกาสเข้าร่วม ถือเป็นการเปิดหน้าต่างบานหนึ่ง ให้แก่ประชาชนไทยในการเรียนรู้ทิเบตดินแดนมหศจรรย์และลี้ลับแห่งนี้ให้มากขึ้น
ท่านผู้ฟังคะ เกี่ยวกับการพัฒนาการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างจีนไทยในรอบ 30 ปีที่ผ่านมา ยังมีอีกหลายประเด็น โปรดฟังท่านที่ปรึกษาฉินอี้ว์เซินเล่าต่อในรายการสัปดาห์นะคะ สำหรับวันนี้ ขอจบลงเพียงเท่านี้ สวัสดีค่ะ
1 2
|