ผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีเกี่ยวกับปัญหาตะวันออกกลาง และได้ผ่านมติที่เสนอโดยสหรัฐฯกับรัสเซีย สนับสนุนปาเลสไตน์กับอิสราเอลผลักดันการเจรจาทางการเมืองต่อไป

นายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ นายเหอ ย่า เฟย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน นางคอนโดลิซซ่า ไรซ์ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ นายเซอร์เกย์ ลาฟโรฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย นายเดวิด มิลิบันด์ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ และผู้แทนประเทศสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้เข้าร่วมการประชุม นายบัน คี มูนกล่าวในที่ประชุมในวันเดียวกันว่า ฝ่ายต่างๆของกระบวนการสันติภาพในตะวันออกกลางควรประกันให้งานที่ดำเนินอยู่ดำเนินต่อไป บรรลุเป้าหมายสุดท้ายที่จะสถาปนาประเทศปาเลสไตน์ และให้ปาเลสไตน์กับอิสราเอลอยู่ด้วยความปรองดอง

นายบัน คี มูน เน้นว่า เนื่องจากปีนี้ ปาเลสไตน์กับอิสราเอลไม่สามารถบรรลุข้อตกลงสันติภาพอย่างทั่วด้านตามการคาดหมาย ทำให้ปี 2009 ที่จะถึงนี้กลายป็นปีสำคัญอย่างยิ่งสำหรับกระบวนการสันติภาพในตะวันออกกลาง

"เรากำลังจะย่างเข้าปี 2009 เราต้องให้สถานการณ์ฉนวนกาซ่าและฝั่งตะวันตกแม่น้ำจอร์แดนมีความสงบ เพื่อเสริมความพยายามในกระบวนการบรรลุสันติภาพให้เป็นจริง ด้วยเหตุนี้ ฝ่ายต่างๆควรกระชับความสามัคคี ใช้ความพยายามมากยิ่งขึ้น รวมทั้งชาวอิสราเอลและชาวปาเลสไตน์ ประเทศที่เกี่ยวข้องในภูมิภาค สันนิบาตอาหรับ การเจรจา 4 ฝ่าย รัฐบาลสหรัฐฯชุดใหม่และคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ"

นายเหอ ย่า เฟย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวก่อนลงมติว่า หวังว่าตะวันออกกลางจะบรรลุสันติภาพถาวรด้วยการเจรจาทางการเมือง เขากล่าวว่า จีนสนับสนุนคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติขยายบทบาทในปัญหาตะวันออกกลาง และรู้สึกยินดีกับร่างมติเกี่ยวกับกระบวนการสันติภาพในตะวันออกกลางที่เสนอโดยสหรัฐฯกับรัสเซีย

"หลักการในร่างมติฉบับนี้คือสนับสนุนปาเลสไตน์กับอิสราเอลดำเนินการเจรจาทางการเมืองต่อไป เรามีความเห็นมาโดยตลอดว่า การเจรจาทางการเมืองเป็นวิถีทางเดียวที่ตะวันออกกลางจะสามารถบรรลุสันติภาพอย่างถาวร เราเร่งทั้งสองฝ่ายให้กลับมาเจรจากันภายใต้สถานการณ์ใหม่ เราหวังว่าภายใต้มติที่เกี่ยวข้องของสหประชาชาติและบนพื้นฐานหลักการที่ดินแลกสันติภาพ ปาเลสไตน์กับอิสราเอลจะกลับมาเจรจากันโดยเร็ว เพื่อบรรลุสันติภาพของทั้งสองประเทศโดยเร็ว"

นางคอนโดลิซซ่า ไรซ์ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯกล่าวเน้นว่า กระบวนการสันติภาพอันนาโปลิสถอยหลังไม่ได้ เธอมีความมั่นใจว่า ในท้ายสุด ปาเลสไตน์กับอิสราเอลจะบรรลุข้อตกลงสันติภาพ

"การเจรจาระหว่างปาเลสไตน์กับอิสราเอลที่เกิดจากการประชุมอันนาโปลิสทำให้ดิฉันมีความมั่นใจต่อการบรรลุเป้าหมายให้สองประเทศอธิปไตยอยู่ด้วยกันอย่างสันติ เรื่องนี้มิใช่เรื่องเพ้อฝัน หากเป็นคำมั่นสัญญาที่จริงจังของฝ่ายต่างๆและประชาคมโลก"

รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียได้เน้นถึงความสำคัญในการผลักดันกระบวนการสันติภาพในตะวันออกกลางของมติฉบับนี้ และกล่าวว่า รัสเซียจะร่วมกับประชาคมโลก ผลักดันกระบวนการสันติภาพในตะวันออกกลาง