วันที่ 28 ธันวาคมเป็นวันที่ 2 ที่ ทหารป้องกันประเทศอิสราเอลใช้ปฏิบัติการทางทหารคาสต์ลิดต่อกลุ่มฮามาส วันเดียวกัน การโจมตีทางอากาศของอิสราเอลต่ อเป้าหมายกลุ่มฮามาสและการโจมตีด้วยจรวดของกลุ่มฮามาสต่ออิสราเอลต่างดำเนินต่อไป สถานการณ์อันตึงเครียดในฉนวนกาซายังคงยังความสนใจของประชาคมโลก

เช้าตรู่วันที่ 28 ใกล้ฟ้าสาง เครื่องบินรบอิสราเอลทิ้งระเบิดฉนวนกาซาอีกครั้ง ต่อด้วยการโจมตีขนานใหญ่ของทหารอิสราเอลสลับกับการทิ้งระเบิดเป็นครั้งคราว นางอาวีตาล์ เลย์โบวิตซ์ โฆษกทหารป้องกันประเทศอิสราเอลกล่าวขณะให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า

" เมื่อวันที่ 27 ธันวาคมที่ผ่านมา เราโจมตีเป้าหมายฮามาส 50 จุด วันนี้ จะโจมตีเป้าหมายจำนวนเท่ากัน การโจมตีครั้งสุดท้ายในวันนี้คือ ระเบิดถล่มอุโมงค์ 40 แห่ง อุโมงค์ 40 แห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตพรมแดนระหว่างฉนวนกาซากับอียิปต์ อุโมงเหล่านี้เป็นช่องทางที่กลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ใช้ในการลักลอบขนส่งอาวุธ และจรวด ตลอดจนเป็นทางที่กลุ่มผู้ก่อการร้ายเข้าออกฉนวนกาซาและไปรับการฝึกซ้อมที่ประเทศอื่น"

นางอาวีตาล์ เลย์โบวิตซ์ มิได้เปิดเผยจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตของชาวปาเลสไตน์ เพียงแต่เน้นว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้ติดตอาวุธของกลุ่มฮามาส แต่ข่าวจากหน่วยงานสาธารณสุขฉนวนกาซาเผยว่า จนถึงขณะนี้ การโจมตีทางอากาศของทหารอิสราเอลเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 296 คน บาดเจ็บ 950 คน

นาย มาร์ก เรเกว์ โฆษกสำนักนายกรัฐมนตรีอิสราเอลเปิดเผยเมื่อวันที่ 28 ธันวาคมว่า วันเดียวกัน การประชุมคณะรัฐมนตรีอิสราเอลมีข้อตกลงสำคัญเกี่ยวกับปัญหาฉนวนกาซา ๓ ประการ

" ประการแรก ใช้กฎหมายว่าด้วยภาวะฉุกเฉินที่ภาคใต้ของอิสราเอล เพื่อรับมือกับภาวะยากลำบากในขณะนี้ ประการที่ ๒ เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจพิเศษ ประกันการสนองอาหารและวัสดุอื่นๆที่เป็นปกติ และประการที่ ๓ เรียกร้องรัฐสภาอิสราเอลให้เห็นชอบการใช้ทหารกองหนุน อิสราเอลเห็นว่า สถานการณ์ปัจจุบันจะไม่สิ้นสุดลงในเร็ววัน และมีความจำเป็นที่จะต้องเกณฑ์ทหารกองหนุน"

ต่อการโจมตีฉนวนกาซาทางอากาศของอิสราเอลที่ทำให้มีชาวปาเลสไตน์ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมากนั้น นาย มาฮ์มุด อับบาส ประธานองค์กรอำนาจแห่งชาติปาเลสไตน์ที่เดินทางไปเยือนไคโร เมืองหลวงอียิปต์ได้กล่าวอย่างชัดเจนในวันเดียวกันว่า คัดค้านอิสราเอลใช้ปฏิบัติการทหารที่ฉนวนกาซา หวังให้รื้อฟื้นการเจรจาโดยเร็ว เพื่อประกันความปลอดภัยของประชาชนปาเลสไตน์

ประชาคมโลกให้ความสนใจต่อสถานการณ์ตึงเครียดในฉนวนกาซาต่อไป เมื่อวันที่ ๒๘ ธันวาคม คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติประกาศคำแถลง เรียกร้องปาเลสไตน์กับอิสราเอลยุติการใช้ความรุนแรงทันที นอกจากนี้ รัฐบาลอิรัก รัสเซีย ตุรกี ซาอุดิอารเบียและคิวบาตลอดจนสันนิบาตชาติอาหรับต่างได้ประกาศคำแถลงโดยประณามหรือเรียกร้องอิสราเอลให้ยุติปฏิบัติการโจมตีฉนวนกาซาทางอากาศ มติของประชาคมโลกดังกล่าวนี้ทำให้อิสราเอลรู้สึกมีแรงกดดัน แต่อิสราเอลยังคงยืนกรานในจุดยืนใช้ปฏิบัติการต่อกลุ่มฮามาส นาย อันติ ดาวิด รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิสราเอลกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า

" กลุ่มฮามาสต้องยุติการโจมตีอิสราเอล สิ่งที่พวกเขาต้องทำมีไม่มาก ถ้าเรามิได้ถูกโจมตี เราจะไม่ก่อการโจมตีชาวปาเลสไตน์ใดๆ เลย นี่เป็นเหตุผลที่เข้าใจได้ง่าย "

(cai)