สถานีวิทยุซีอาร์ไอรายงานว่า เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา การประชุมรัฐมนตรีคลังอาเซียน+จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้วาระพิเศษจัดขึ้นที่จังหวัดภูเก็ต ที่ประชุมได้พิจารณาตรวจสอบและประกาศแผนปฏิบัติการเกี่ยวกับการให้เศรษฐกิจและการเงินเอเชียมีความมั่นคง รัฐมนตรีคลังอาเซียน+จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้แสดงว่า จะเสริมความร่วมมือด้านการเงินอย่างแท้จริง ร่วมกันพิทักษ์ความมั่นคงของตลาดการเงินเอเชีย
ในวันเดียวกัน ที่ประชุมได้อภิปรายประเด็นสำคัญๆหลายประเด็น อาทิ สถานการณ์เศรษฐกิจมหภาคระดับภูมิภาค นโยบายและมาตรการในการรับมือกับวิกฤตของประเทศต่างๆ ตลอดจนความร่วมมือด้านการคลังและการเงินในภูมิภาคเอเชียตะวันออก เป็นต้น รัฐมนตรีคลังของแต่ละประเทศได้ร่วมกันแถลงข่าว นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังไทยซึ่งเป็นประเทศเจ้าภาพในฐานะเป็นตัวแทนที่ประชุมประกาศแผนปฏิบัติการเกี่ยวกับการให้เศรษฐกิจและการเงินเอเชียมีความมั่นคงว่า
" เพื่อเสริมตลาดในภูมิภาคนี้ให้มีความมั่นคงมากขึ้น และให้มีความมั่นใจต่อตลาดนี้มากขึ้น เราเน้นว่า ความเป็นพหุภาคีของมาตรการริเริ่มเชียงใหม่ต้องปฏิบัติได้ และได้บรรลุความคิดเห็นร่วมกันดังนี้ ประการแรก คลังสำรอง เงินตราต่างประเทศที่จัดตั้งขึ้นตามความเป็นพหุภาคีของมาตรการริเริ่มเชียงใหม่จะมีขนาดเพิ่มขึ้นจาก 80,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็น 120,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในจำนวนนี้ อาเซียนส่งเงินสมทบร้อยละ 20 จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ส่งเงินสมทบร้อยละ 80 อัตราส่วนในการสมทบเงินยังคงไว้ดังเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง "
จากแผนปฏิบัติการนี้ ประเทศสมาชิกอาเซียน จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้จะบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราส่วนในการสมทบเงินของแต่ละประเทศ กลไกเกี่ยวกับการตัดสินนโยบายของคลังสำรองเงินตราต่างประเทศ และกลไกการบริหาร เป็นต้นในที่ประชุมรัฐมนตรีคลังอาเซียน+จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ครั้งต่อไปซึ่งจะจัดขึ้นที่เกาะบาหลีอินโดนีเซียในเดือนพฤษภาคมปี 2009 นอกจากนี้ ยังจะจัดตั้งองค์กรตรวจสอบเศรษฐกิจที่เป็นอิสระของภูมิภาคอาเซียน จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ขึ้น เสริมความสามารถในการตรวจสอบเศรษฐกิจระดับภูมิภาคให้เข้มแข็งขึ้น แผนปฏิบัติการนี้ยังเน้นบทบาทของธนาคารพัฒนาเอเชียในการสนับสนุนการสร้างสรรค์สาธารณูปโภคของภูมิภาคนี้ และการค้า การรวบรวมเงินทุน จะพยายามให้บรรลุความเห็นร่วมกันเกี่ยวกับการเพิ่มทุนของธนาคารพัฒนาเอเชียครั้งที่ 5 ก่อนจัดการประชุมประจำปีของธนาคารพัฒนาเอเชียในเดือนพฤษภาคมปีนี้
นายเซี่ย อวี้เหริน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจีนนำคณะผู้แทนจีนเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ เขาได้บรรยายสรุปสถานการณ์ทางเศรษฐกิจมหภาคของจีนและมาตรการสำคัญของจีนในการรับมือกับวิกฤตการเงิน เขากล่าวกับผู้สื่อข่าวจีนว่า
"ต้องเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศในเอเชียตะวันออก ในนี้ การขับเคลื่อนความเป็นแบบพหุภาคีของมาตรการริเริ่มเชียงใหม่ และการสร้างคลังสำรองเงินตราต่างประเทศจะเป็นเนื้อหาที่สำคัญ และเป็นเวทีสำคัญด้วย ปีหลังๆ นี้ จีนพยายามผลักดันงานนี้ให้มีผลคืบหน้า การประชุมรัฐมนตรีคลังอาเซียน+จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้วาระพิเศษครั้งนี้ก็ได้พูดคุยปัญหาด้านนี้มากขึ้น จากความพยายามของทุกฝ่าย จะสามารถบรรลุความเห็นร่วมกันเกี่ยวกับปัจจัยสำคัญๆในการจัดตั้งคลังสำรองโดยเร็ว ซึ่งรวมถึงปัญหาที่เป็นรูปธรรมต่างๆ อาทิ ขนาดการลงทุน อัตราส่วนในการสมทบเงินทุนของแต่ละประเทศ กลไกตัดสินนโยบายของคลังสำรอง และกลไกการบริหารเป็นต้น ผมเห็นว่า จากการใช้ความพยายามของฝ่ายต่างๆ กระบวนการของงานดังกล่าวนี้จะเร่งฝีก้าวเร็วยิ่งขึ้นต่อไป ทำให้ความเป็นพหุภาคีของมาตรการริเริ่มเชียงใหม่มีประสิทธิผลอย่างแท้จริง หลังจัดตั้งคลังสำรองเงินตราต่างประเทศ จะมีบทบาทในการช่วยให้ตลาดการเงินของภูมิภาคนี้มีความมั่นคง เสริมทักษะการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินให้เข้มแข็งขึ้น และส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ "
ที่ท่านได้ฟังจบลงคือ บทรายงานข่าว เรื่อง การประชุมรัฐมนตรีคลังอาเซียน+จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้วาระพิเศษอภิปรายมาตรการรับมือวิกฤตการเงิน
(cai)
|