วันที่ 7 มีนาคมนี้ การประชุมสภาผู้เเทนประชาชนเเห่งชาติจีนชุดที่ 11 คร้ังที่ 2 จัดงานเเถลงข่าว นายหยาง เจี๋ยฉือ รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนได้ตอบคำถามของผู้สื่อข่าว เกี่ยวกับโยนบายทางการทูตของจีนเเละปัญหาความสัมพันธ์ทาง การทูตเป็นต้น ภายใต้สถานการณ์ที่วิกฤติการเงินสากลกำลัง ลุกลามไป เเละไม่ทราบว่าจะสิ้นสุดเมื่อไร การรับมือกับวิกฤติการ เงินสากลเเละประกันให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างรวดเร็วเเละมั่นคง กลายเป็นภาระหน้าที่สำคัญของรัฐบาลจีน ปัจจุบันทั่วโลกอยู่ในกระเเส โลกาภิวัตน์ เศรษฐกิจจีนมีการพึ่งพากับนานาชาติ มาตรการของจีนจะนำผลอะไรสู่โลก นโยบายทางการทูต ของจีนในปีนี้มีอะไรบ้าง

เมื่อปี 2008 วิกฤติการเงินสากลลุำกลามไปในทั่วโลก เเม้ว่าจีนไม่ ได้อยู่ใจกลางของวิกฤติ เเต่การพัฒนาของเศรษฐกิจจีนที่มี สัดส่วน 6% ของโลกได้ดึงดูดความสนใจนานาประเทศ เมื่อปี 2008 อัตราเติบโตของเศรษฐกิจโลกมี 20% จากจีน ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว พรรคคอมมิวนิสต์จีนเเละ รัฐบาลจีนจะรับมือกับการท้าทายจากวิกฤติอย่างไร นายเิวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีนให้คำตอบที่ชัดเจนในรายงานการดำเนินงานของ รัฐบาล

"เราจะขยายความร่วมมือกับฝ่ายต่างๆ ร่วมกันยับยั้งการ วิกฤติการเงินสากลลุกลามต่อไป ผลักดันการปฏิรูประบบ การเงินสากล คัดค้านลัทธิกีดกันทางการค้าเเละการลงทุน เพื่อส่งเสริมการฟื้นฟู เศรษฐกิจโลกเเละกลับคืนสู่ภาวะปกติโดยเร็ว"

นายหยัง เจี๋ยฉือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกาต่างประเทศจีน ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวในวันนี้ว่า ปีนี้ กิจการ ทางการทูตของจีนจะเน้น ให้บริการเศรษฐกิจ เขาระบุว่ีา

"ภาระหน้าที่หลัก ก็คือประกันให้เศรษฐกิจภายในประเทศ พัฒนาอย่างรวดเร็วเเละมั่นคง เเละต้องให้ความสำคัญกับ การรับมือกับวิกฤติกาเงินสากลอย่างเเข็งขัน เพื่อรักษาการเติบโตืทาง เศรษฐกิจ ประกันชีวิตความเป็นอยู่ เเละรักษาความมั่นคง" นอกจากนี้ต้องเตรียมพร้อมขณะที่ผู้นำจีนเข้าร่วมการประชุมระหว่าง ประเทศ"

บรรดาสมาชิกสภาที่เข้าร่วมการประชุมสภาฯ เห็นว่า เป้าหมายรวมของกิจการงานทางการทูตของจีนก็เพื่อจะเป็น ผลดีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจจีน ประกันให้การสร้างสรรค์สังคมทันสมัยของจีนสามารถ ดำเนินไปอย่างราบรื่น ปัจจุบัน ภายใต้สถานการณ์ที่วิกฤติการเงิน กำลังส่งผลกระทบไปทั่วโลกนี้ กิจการทางการทูตก็ต้องเเสดงบทบาทที่เป็นคุณ ศาสตราจารย์หลี่ อี้หู่ สมาชิกสภาผู้เเทนประชาชนเเห่งชาติจีน จากสถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของมหาวิทยาลัยปักกิ่งกล่าวว่า

"เราควรต้องมีการติต่อเเละความร่วมมือกับกลุ่มเศรษฐกิจ สำคัญในด้านการรับมือกับวิกฤติการเงิน เรื่องนี้ต้องได้รับการประักัน ซึ่งก็คือ มีการติดต่อเเละเเลกเปลี่ยนกับสหรัฐฯ สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น เเละประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งรัสเซีย เกาหลีใต้ เเละประเทศอาเซียนเป็นต้น ต้องมีมาตรการที่เป็นรูปธรรม ประกันความร่วมมือทั้งนี้มีความสำคัญในกิจการทางการทูตของจีน"

คำมั่นสัญญาเเละการปฏิบัติของจีนไม่เพียงเเต่ได้สร้างความ มั่นใจเเก่ประชาชนจีนในการเอาชนะวิกฤติการเงินสากล หากยังเพิ่มความมั่นใจนี้เเก่ประชาคมโลกด้วย ก็เหมือน คำกล่าวของนายกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่าว่า ยิ่งอยู่ในช่วงที่ยากลำบากนี้ ความกล้าหาญเเละความมั่นใจ ยิ่งมีคุณค่ามากกว่าทองคำเเละเงินตรา