นายสวี หย่งหัว บ้านเกิดอยู่ที่ชนบทเมืองสิงถายมณฑล เหอเป่ย เมื่อ 7 ปีก่อน เขาเดินทางออกจากบ้านเกิดเพื่อไปทำงาน ที่โรงงานเเห่งหนึ่งในเมืองกวางโจว เมืองติดชายทะเลภาคใต้ของจีน เมื่อปลายปีที่เเล้ว วิสาหกิจที่เขาทำงานอยู่ได้ผลกระทบจากวิกฤติการเงิน ทำให้โรงานต้องปิดลง สวี หย่งหัว ที่ตกงานต้องเดินทางออกจาก เมืองกวางโจวที่เขาใช้ชีวิตเป็นเวลา 7 ปี เเละกลับไปถึงบ้านเกิด
"ผมกลับมาหลายเดือนเเล้ว เเต่ไม่มีงานทำตลอด รู้สึกกระวนกระวาง ใจอย่างยิ่ง"
จริงๆ เเล้ว ในท้องที่ต่างๆ ทั่วประเทศจีนมีเเรงงานจากชนบทกว่า 20 ล้านคนมีประสบการณ์ เช่นเดียวกันกับนายสวี หย่งหัว เรื่องที่ยิ่งเลวกว่านี้อีกคือ เนื่องจาก ได้ผลกระทบจากวิกฤติการเงินสากล หลังผ่านตรุษจีนเเล้ว จำนวนรับสมัครของ วิสาหกิจต่างๆได้ลดน้อยลงประมาณ 20% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีที่เเล้ว
เวลาการรับสมัครของวิสาหกิจต่างๆ ก็เลื่อนเวลาออกไปด้วย ดังนั้น การหางานทำของเเรงงานชนบทที่กลับบ้านเกิด ยังคงเป็นปัญหาที่ล่อเเหลมมาก
นายช่าย ฟั่ง สมาชิกสภาผู้เเทนประชาชนเเห่งชาติจีน ผู้อำนวยการสถาบันประชากรเเรงงานเเละเศรษฐกิจของสภา วิทยาศาสตร์ทางสังคมจีนเห็นว่า ถ้าปัญหาดังกล่าวไม่ผ่อนคลาย ก็จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเเละสังคมจีนไม่น้อย เขาระบุว่า
"ในช่วงที่ผ่านมานี้ การเพิ่มรายได้เกษตรกรส่วน ใหญ่มาจากการทำงานที่ต่างถิ่น เมื่อตกงานเเล้ว รายได้ของพวกเขาก็จะ ลดน้อยลงอย่างมาก นอกจากนี้ ในกลุ่มคนดังกล่าวมี 60% เป็นหนุ่มสาวที่มีอายุ ต่ำกว่า 30 ปี พวกเขาเดินทางไปมาง่ายบ่อยครั้ง หากปัญหาว่างงานของพวกเขาไม่สามารถเเก้ไขได้ อาจทำให้กลายเป็นปัจจัยที่ก่อนเกิดความไม่สงบในสังคม"
นางจู เสว่ฉิน สามาชิกสภาจากชนบทที่ทำงานในนครเซี่ยงไฮ้เห็นว่า รัฐบาลควรถือวิกฤติการเงินเป็นโอกาส เพิ่มการอบรมเเรงงานชนบท มากขึ้น เพื่อยกคุณภาพของเเรงงานให้สูงขึ้น เธอระบุว่า
" ต้องให้รัฐบาล วิสาหกิจ เเละเเรงงานสามฝ่ายใช้คาวมพยายาม ร่วมกัน เเรงงานชนบทไม่เพียงเเต่ทำงานใช้เเรงงานอย่างเดียว หากได้รับคววามช่วยเหลือจากรัฐบาล เเรงงานชนบทก็สามารถพัฒนา ด้านเทคนิคได้"
ศาสตราจารย์อี้ หมิ่นลี่ สมาชิกผู้เเทนประชาชนเเห่งชาติจีนจาก มหาวิทยาลัยการคลังเเละเศรษฐกิจซีหนานของจีนยิ่งพิจารณา อย่างลึกซึ้่งในปัญหานี้ เขาเสนอให้เเรงงานจากชนบทไปหางานทำ ที่เมืองเเละหมู่บ้านที่ห่างจากบ้านเกิดไม่ไกล เขากล่าวว่า
"ก่อนอื่น ต้่องพิจารณาถึงเเผนกระตุ้นเศรษฐกิจ 4 ล้่านล้านหยวนจาก รัฐบาลกลางก่อน ควรลงทุนส่วนหนึ่งในสาธารณนุโภคในเมืองเเละ หมู่บ้านขนาดกลาง ขนาดย่อม โดยเฉพาะพื้นที่ที่มี เเรงงานชนบทกลับไปหางานค่อนข้างมาก เพราะว่า เมืองเเละหมู่บ้าน ต่างๆ ต้องการการลงทุนในด้านการขจัดขยะ บำบัดน้ำเสีย เเละอนุรักษ์ สิ่งเเวดล้อม โครงการเหล่านี้สามารถสร้างโอกาสทำงานใหม่ได้ เเละสามารถสร้างงานให้เเรงงานชนบทได้ทำให้พวกเขามีรายได้ที่มั่นคง ทั้งเป็นผลดีต่อการขยายความต้องการภายใน เเละปรับปรุงสภาพ เศรษฐกิจทางมหาภาคให้ดีขึ้นด้วย"
|