ผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอรายงานว่า ตามคำเชิญของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีไทย นายเวิน เจีย เป่า นายกรัฐมนตรีจีนจะเข้าร่วมการประชุมผู้นำจีนกับอาเซียนครั้งที่ 12 การประชุมผู้นำอาเซียนกับจีน ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ครั้งที่ 12 การประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออกครั้งที่ 4 และงานเลี้ยงอาหารเช้าผู้นำจีน ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ที่พัทยา ในการประชุมดังกล่าว นายเวิน เจีย เป่าจะกล่าวคำปราศรัยสำคัญ เพื่ออธิบายถึงความเห็นและข้อเสนอของจีนที่มีต่อการกระชับความร่วมมือระหว่างจีนกับเอเชียตะวันออก ตลอดจนการร่วมกันรับมือกับวิกฤตการเงินโลก

นายหู เจิ้ง เย่ว์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศจีนเห็นว่า การเยือนของนายเวิน เจีย เป่า ครั้งนี้ เป็นการเยือนแห่งความมั่นใจและความร่วมมือ เขากล่าวว่า

"การเข้าร่วมประชุมผู้นำเอเชียตะวันออกของนายเวิน เจีย เป่า ครั้งนี้ เป็นปฏิบัติการทางการทูตสำคัญของผู้นำจีนกับประเทศรอบข้าง จะมีบทบาทแข็งขัน ลึกซึ้งและยาวไกลต่อความร่วมมือในเอเชียตะวันออก จีนจะเข้าร่วมการประชุมในท่าทีที่เพิ่มความมั่นใจและกระชับความร่วมมือ เข้าร่วมการเจรจากับฝ่ายต่างๆ อย่างแข็งขัน ร่วมกันผลักดันการประชุมให้ได้รับผลงานที่แท้จริง เพิ่มความมั่นใจในการพัฒนาของประเทศเอเชีย ส่งเสริมความร่วมมือที่แท้จริงของภูมิภาคเอเชียตะวันออก รักษาผลประโยชน์ของประเทศกำลังพัฒนา ร่วมกันรับมือกับการท้าทายที่เกิดจากวิกฤตการเงินโลก"

สำหรับการประชุมผู้นำเอเชียตะวันออกครั้งนี้ ประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกมีความหวังอย่างมากต่อประเทศจีน นายจาง เสีย กาง นักวิจัยจากสถาบันวิจัยความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแห่งยุคปัจจุบันของจีนเห็นว่า จีนมีความสามารถสร้างความมั่นใจกับประเทศเอเชีย เขากล่าวว่า

"ปัจจุบัน จีนมีเงินตราต่างประเทศสำรองมากมายและความต้องการภายในประเทศที่ใหญ่หลวง ระเบียบการเงินค่อนข้างดีในภาพรวม เศรษฐกิจการผลิตแม้ว่าได้รับผลกระทบ แต่ไม่มากนัก ปีนี้ การเติบโตทางเศรษฐกิจมีหวังจะคงระดับ 8% จีนเป็นกำลังสำคัญในการรักษาความมั่นคงทางการเงินและเศรษฐกิจในภูมิภาคและโลก การเข้าร่วมของจีน จะเพิ่มความมั่นใจต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจเอเชีย"

ในที่ประชุมผู้นำเอเชียตะวันออกครั้งนี้ จีนกับอาเซียนจะลงนามในข้อตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างจีนกับอาเซียน เป็นสัญลักษณ์บ่งบอกว่าการเจรจาเขตการค้าเสรีระหว่างจีนกับอาเซียนได้เสร็จสิ้นลง นายจาง เสีย กางเห็นว่า ข้อตกลงดังกล่าวมีความหมายลึกซึ้งและยาวไกล เขากล่าวว่า

"ภายใต้ผลกระทบจากวิกฤตการเงินในปัจจุบัน จีนกับอาเซียนลงนามในข้อตกลงดังกล่าว แสดงว่าจีนปฏิบัติตามหลักการเคารพซึ่งกันและกัน เสมอภาคเท่าเทียมกัน เพื่อได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน ในการผลักดันความร่วมมือกับประเทศรอบข้างและประเทศในอาเซียน"