วันที่ 26 เมษายนนี้ นายเฉิน หยุนหลิน นายกสมาคมความสัมพันธ์ระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวันของแผ่นดินใหญ่กับนายเจียง ปิ่งคุน ประธานกองทุนแลกเปลี่ยนระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวันได้ลงนามข้อตกลง 3 ฉบับที่เมืองหนานจิง มณฑลเจียงซู ได้แก่ "ข้อตกลงเกี่ยวกับสองฝั่งช่องแคบไต้หวันร่วมกันปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายและให้ความร่วมมือทางกฎหมาย" "ข้อตกลงเกี่ยวกับความร่วมมือทางการเงินระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน" และ "ข้อตกลงเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขนส่งทางอากาศระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน" ได้เขียนบันทึกหน้าใหม่ในประวัติศาสตร์การเจรจาทางการค้าระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นว่า การขนส่งทางอากาศระหว่างสองฝั่งเข้าสู่ภาวะปกติ การกำกับดูแลทางการเงินและเงินตราเป็นระบบระเบียบ และความสัมพันธ์ด้านกฎหมายระหว่างสองฝั่งมีความแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

นายหวังอี้ ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการไต้หวันคณะรัฐมนตรีจีนได้ประเมินผลการเจรจาครั้งนี้อย่างสูง เขากล่าวว่า

"ด้วยการใช้ความพยายามของทั้งสองฝ่าย การไปมาหาสู่กันทางเศรษฐกิจระหว่างสองฝั่งกำลังเข้าสู่ภาวะปกติ เช่นการจัดเที่ยวบินประจำแสดงให้เห็นว่า การบินโดยตรงระหว่างสองฝั่งเป็นระบบระเบียบมากยิ่งขึ้น การเริ่มความร่วมมือทางการเงินแสดงให้เห็นว่า ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจจากเศรษฐกิจการผลิตพัฒนาถึงด้านการเงิน การที่ทุนแผ่นดินใหญ่เข้าสู่เกาะไต้หวันเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงว่า การไปมาหาสู่กันทางเศรษฐกิจจากการลงทุนโดยฝ่ายเดียวพัฒนาเป็นการลงทุนทั้งสองฝ่าย การร่วมกันปราบแรมการกระทำผิดกฎหมายและให้ความร่วมมือทางกฎหมายเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงว่า การเจรจาจากประเด็นเศรษฐกิจขยายไปถึงประเด็นสังคม"

นอกจากนั้น สองฝ่ายยังได้บรรลุซึ่งความเห็นเป็นเอกฉันท์เกี่ยวกับการให้แผ่นดินใหญ่ไปลงทุนในไต้หวัน โดยเห็นว่า ควรปฏิบัตตามหลักการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน และอำนวยผลประโยชน์แก่กัน ส่งเสริมให้นักธุรกิจแผ่นดินใหญ่ไปศึกษาดูงานและลงทุนที่ไต้หวัน เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสองฝั่ง และหวังว่าจะสร้างกลไกแลกเปลี่ยนระหว่างสองฝั่ง

เมื่อปีที่แล้ว สมาคมความสัมพันธ์ระหว่างสองฝั่งฯและกองทุนแลกเปลี่ยนฯได้จัดการเจรจาสองครั้ง ลงนามข้อตกลง 6 ฉบับ นายเฉินหยุนหลิน นายกสมาคมความสัมพันธ์ระหว่างสองฝั่งฯกล่าวว่า

"สภาพความเป็นจริงพิสูจน์ได้ว่า ในช่วงเวลาไม่ถึงหนึ่งปี การปรึกษาหารือตามระบบการเจรจาได้พัฒนาลุ่มลึกยิ่งขึ้น การพัฒนาอย่างสันติระหว่างสองฝั่งมีแนวโน้มที่ดี ความสัมพันธ์ระหว่างสองฝั่งได้เข้าสู่ยุคใหม่ที่มุ่งพัฒนาอย่างสันติเมื่อเวลาผ่านไป 60 ปี เชื่อว่าถ้าสองฝั่งร่วมมือกัน ก็จะขจัดความยากลำบาก และสร้างความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจที่อำนวยประโยชน์แก่กันอย่างแน่นอน"

นายเจียงปิ่งคุน ประธานกองทุนการแลกเปลี่ยนฯ กล่าวว่า การเจรจาครั้งนี้ไม่เพียงแต่สืบทอดและขยายผลการเจรจาสองครั้งที่แล้ว หากยังเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสองฝั่งกำลังเข้าสู่ภาวะปกติ

"สองฝ่ายควรเสริมสร้างกลไลแลกเปลี่ยนให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม โดยมุ่งให้เกิดผลในทางปฏิบัติ"

ในการเจรจาครั้งนี้ สองฝ่ายยังตกลงกันว่า จะจัดการเจรจาครั้งที่ 4 ที่ไต้หวันในครึ่งหลังปีนี้ จะเน้นอภิปรายประเด็นความร่วมมือด้านแรงงานประมงระหว่างสองฝั่ง ความร่วมมือด้านการตรวจสอบคุณภาพของผลิตผลการเกษตรระหว่างสองฝั่ง ความร่วมมือด้านการให้ใบรับรองระหว่างสองฝั่ง ตลอดจนหลีกเลี่ยงการเก็บภาษีซ้ำ