วัดเอ้อหวาง ซึ่งเป็นวัดเต๋าที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงผู้ออกแบบเขื่อนตูเจียงเอี้ยนได้พังทลายลงในเหตุแผนดินไหวครั้งนี้ สำนักงานอนุรักษ์โบราณวัตถุแห่งชาติจีนเป็นผู้รับผิดชอบงานซ่อมแซมนี้ โดยจะซ่อมตามรูปภาพและข้อมูลที่เก็บเข้าแฟ้มไว้ พยายามใช้วัสดุเดิมที่ยังเหลืออยู่และคงสภาพเดิมอย่างมากที่สุดบนสถานที่เดิม นายจาง จงเซิ่ง หัวหน้าฝ่ายการตลาดของกรมการท่องเที่ยวเมืองตูเจียงเอี้ยน คาดว่า อีก 2-3 ปี วัดเอ้อหวางก็สามารถรับรองนักท่องเที่ยวได้แล้ว

"เวลาซ่อมโบราณสถาน เราได้ยึดหลักในการใช้กรรมวิธีดั้งเดิม คงสภาพเดิมไว้ ใช้วัสดุเดิมและให้ตั้งอยู่สถานที่เดิม พยายามทำตามข้อมูลที่เก็บรักษาไว้ เพราะตามการเรียกร้องของหน่วยงานอนุรักษ์โบราณวัตถุแห่งชาติ โบราณสถานทุกแห่งล้วนต้องมีการบันทึกข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวข้องเก็บไว้ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่การอนุรักษ์ "

นอกจากอุทยานเขื่อนตูเจียงเอี้ยนแล้ว จิ่วไจ้โกว ซึ่งเป็นอุทยานที่มีชื่อเสียงโด่งดังก็ฟื้นสภาพเป็นอย่างดีแล้ว แหล่งข่าวแจ้งว่า แม้อุทยานจิ่วไจ้โกวไม่ได้รับความเสียหายมากนัก แต่ถนนที่ไปสู่ภายนอกถูกทำลาย ทำให้การเดินทางประสบความยากลำบาก หน่วยงานบริหารท้องถิ่นจึงใช้มาตรการสองประการคือ หนึ่ง เปิดช่องทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ให้รถโดยสารใช้เส้นทางจากเมือง หลันโจว มณฑลกันซู่ไปสู่จิ่วไจ้โกว ประการที่สองคือ ให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งชาติจีนพิจารณาอนุมัติเปิดเส้นทางการบินโดยตรงจากปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เซินเจิ้นและกวางโจว ไปสู่จิ่วไจ้โกว มาตรการเหล่านี้ ย่อมจะทำให้นักท่องเที่ยวมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ปัจจุบัน จิ่วไจ้โกวรองรับนักท่องเที่ยวได้ 3,800 คนต่อวัน ซึ่งเป็นวี่แววการฟื้นตัวที่ดีขึ้น

เพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวในมณฑลเสฉวน กรมการท่องเที่ยวมณฑลเสฉวนเสนอให้อุทยานต่างๆร่วมกันดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในเดือนพฤษภาคม วันที่ 12 พฤษภาคมซึ่งเป็นวันครบรอบ 1 ปีแห่งการเกิดแผ่นดินไหว เพื่อตอบแทนบุญคุณของทั่วสังคมและกลุ่มคนที่เอาใจใส่ สนับสนุนและให้ความช่วยเหลือต่อเสฉวน โดยอุทยานทุกแห่งจะไม่เก็บบัตรเข้าชม ส่วนเวลาอื่นๆของเดือนพฤษภาคม บัตรเข้าชมจะลด 50 %

นอกจากนั้น บริษัททัวร์ต่างๆ ภายในมณฑลเสฉวนยังเปิดเส้นทางท่องเที่ยวใหม่อีกหลายแห่ง เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มากขึ้น อย่างเช่น ตำบลอิ้งซิ่วเดิมเป็นตำบลเล็กๆที่ไม่มีชื่อเสียงบนเส้นทางที่ไปจิ่วไจ้โกว แต่ปัจจุบัน ตำบลนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้จำนวนมาก จนกลายเป็นเส้นทางท่องเที่ยวใหม่

ด้วยการฟื้นฟูร่วม 1 ปี ปัจจุบัน กิจการท่องเที่ยวของมณฑลเสฉวนมีสภาพฟื้นตัวเป็นอย่างดี โดยเฉพาะเมื่อย่างเข้าสู่ปี 2009 เป็นต้นมา ด้วยการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานใหม่ และกิจการส่งเสริมการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวของเสฉวนได้รับการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว นายจางกู่ อธิบดีกรมการท่องเที่ยวมณฑลเสฉวนกล่าวว่า