จีนเป็นประเทศที่มีจำนวนประชากรมากที่สุดในโลก มีแฟนกีฬาฟุตบอลหลายร้อยล้านคน แต่ผลการแข่งขันระหว่างประเทศของทีมชาติจีนไม่สามารถทำให้แฟนบอลจีนรู้สึกพอใจ โดยเฉพาะในการแข่งขันรอบคัดเลือกโซนเอเซียเพื่อเข้ารอบฟุตบอลโลกปี 2010 ที่แอฟริกาใต้นั้น ทีมจีนพ่ายแพ้ในการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม ทำให้ไม่สามารถเข้าสู่รอบ 10 ทีมสุดท้ายของโซนเอเซียได้ สร้างความผิดหวังอย่างยิ่งแก่แฟนกีฬาฟุตบอลชาวจีน และทีมชาติจีนถูกสั่งยุบทันที
เดือนเมษายนที่ผ่านมา สมาคมกีฬาฟุตบอลจีนได้แต่งตั้งนายเกาหงโป อดีตกองหน้าทีมชาติจีนให้เป็นโค้ชคนใหม่ของทีมฟุตบอลชายของจีน เมื่อผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอถามนายเกาหงโปว่า โค้ชระดับโลกในดาวใจของเขาเป็นใคร คำตอบของเขาคือ ไม่ได้ชื่นชอบหรือนับถือใครเป็นพิเศษ เพียงแต่เรียนรู้จากประสบการณ์ของพวกเขา นายเกาหงโปกล่าวว่า
"การเล่นกีฬาฟุตบอลมีความนิยมหลายอย่าง เช่นนิยมสไตล์บราซิลหรือเยอรมนี โค้ชหลายคนที่ประสบความสำเร็จ ผมก็เรียนรู้จากประสบการณ์ของพวกเขา และเอามาผสมกับความเข้าใจของผมที่มีต่อฟุตบอล เพื่อแสวงหาวิถีการเล่นฟุตบอลที่เหมาะสมกับชาวจีน"
เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคมที่ผ่า่นมาที่นครเซี่ยงไฮ้ มีจัดการแข่งขันฟุตบอลอุ่นเครื่องนัดมิตรภาพระหว่างทีมชาติจีนชุดใหม่กับทีมชาติเยอรมนี ผลการแข่งขันเสมอกันที่ 1 ต่อ 1 แฟนบอลจีนเห็นว่า ทีมชาติเยอรมนีไม่ได้เอาจจริงเอาจังในการแข่งขันครั้งนี้นัก จึงไม่ดีใจต่อผลการแข่งขันเท่าไร แม้ว่าทีมเยอรมนีเป็นทีมที่แข็งแกร่งระดับโลกก็ตาม ต่อจากนั้นมา ในวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา ทีมชาติจีนได้แข่งกับทีมชาติอิหร่าน คราวนี้ สมาชิกสำคัญของทีมอิหร่านมาเกือบหมด และเล่นอย่างจริงจัง เพราะถือเป็นการอุ่นเครื่องก่อนที่จะไปแข่งกับทีมเกาหลีเหนือซึ่งเป็นการแข่งขันรอบ 10 ทีมสุดท้ายโซนเอเซียของฟุตบอลโลกปี 2010 ทีมอิหร่านคงดูถูกทีมจีนไม่มากก็น้อย เพราะช่วง 14 ปีที่ผ่านมา ทีมจีนไม่เคยเอาชนะทีมอิหร่านภายในระยะเวลาการแข่งขัน 90 นาทีได้เลย แต่สิ่งที่คาดคิดไม่ถึงคือ ในครั้งนี้ทีมจีนเอาชนะด้วยคะแนน 1 ต่อ 0
แฟนฟุตบอลจีนเริ่มรู้สึกดีใจ นอกจากผลการแข่งขันแล้ว แฟนฟุตบอลจีนยังเห็นได้ว่า ทีมชาติจีนชุดใหม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่า่งเห็นได้ชัด คือหนึ่งดาราฟุตบอลชื่อดังหรือนักกีฬารุ่นเก่าส่วนใหญ่ไม่ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมทีมนี้ สอง ทีมจีนเล่นด้วยเทคนิค หากมิใช่อาศัยกำลังจากร่ายกายเพียงอย่างเดียว ซึ่งจุดนี้ คล้ายกับลักษณะของนายเกาหงโปเมื่อครั้งยังเป็นกองหน้าทีมชาติ ซึ่งเขาเคยได้รับการขนามนามว่า "กองหน้ามือสังหารผู้ชาญฉลาด"
ขณะให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว นายเกาหงโปบอกกับผู้สื่อข่าวว่า
1 2
|