เมื่อต้นปีนี้ ที่หมู่บ้านโหยว เหว่ย จื่อ ชานเมืองซิ่นหยาง มณฑลเหอหนาน ทางภาคกลางของจีนได้พบเรื่องประหลาดคือ มีชาวญี่ปุ่นคนหนึ่ง ไปเช่าที่ดินปลูกข้าวจ้าวที่หมู่บ้านโหยว เหว่ย จื่อ รายการวันนี้ ดิฉันจะนำเรื่องราวของชาวญี่ปุ่นคนนี้มาเล่าสู่กันฟังค่ะ
หมู่บ้านโหยว เหว่ย จื่อ ห่างจากเมืองซิ่นหยางประมาณ 150 กิโลเมตร วันที่ผู้สื่อข่าวไปถึงฟาร์มที่ชื่อ ไร่นาสีเขียว ได้เห็นว่า มีผู้ชายคนหนึ่งรูปร่างผอม ใบหน้าคล้ำกำลังขับรถแทรกเตอร์อยู่ในนา เขาใส่หมวกกันแดด แต่งชุดทำงาน ใส่รองเท้าบู๊ทยาง เขาก็คือ นายทาเตะ มัตสุคูนิฮิคุ (TATE MATSU KUNIHIKU)ชาวญี่ปุ่น ที่เดินทางมาลงทุนด้านการเกษตรในมณฑลเหอหนาน
ทาเตะ มัตสุคุนิฮิคุ อายุ 53 ปี เป็นเจ้าของฟาร์มเกษตรในจังหวัดไอจิของญี่ปุ่น เขาเดินทางมาจีนตั้งแต่ปลายปี 2008 มุ่งหน้ามาปลูกข้าวเจ้าที่มณฑลเหอหนาน เขาบอกว่า สิ่งที่จูงใจเขามาจีนที่สุดคือ นโยบายส่งเสริมการเกษตรของจีน
"ชาวญี่ปุ่นที่มาลงทุนในจีนจะอยู่ในด้านเครื่องใช้ไฟฟ้าเกือบทั้งหมด ที่ลงทุนด้านการเกษตรยังไม่มี ผมรู้สึกว่า ปัจจุบัน จีนให้ความสำคัญมากกับการเกษตร และที่สำคัญ นโยบายการเกษตรนับวันดียิ่งขึ้น น่าจะมีโอกาสมากกว่า "
ผู้ที่แนะนำเขามาลงทุนที่จีนคือ นางอยู๋ ชุน เสีย ชาวนาของมณฑลเหอหนาน เมื่อ 4 ปีก่อน อยู๋ ชุน เสียไปเรียนต่อที่ประเทศญี่ปุ่นและฝึกงานที่ฟาร์มของทาเตะ มัตสุคูนิฮิคุ โดยมีกรมแรงงานมณฑลเหอหนานเป็นสื่อกลาง อยู๋ ชุน เสียอยู่ร่วมกันกับครอบครัวของทาเตะ มัตสุคูนิฮิคุ เป็นเวลา 3 ปี ทำให้ชาวญี่ปุ่นรู้สึกประทับใจมากในความขยัน ซื่อสัตย์และตั้งใจทำงานของอยู๋ ชุน เสีย และมีความเข้าใจใหม่ต่อประชาชนจีนและประเทศจีนด้วย ในช่วง 3 ปี อยู๋ ชุน เสียมักจะเล่าเรื่องของจีนให้ทาเตะ มัตสุคูนิฮิคุฟัง รวมทั้งเรื่องการพัฒนาการเกษตรและการแก้ปัญาเกษตรกรของจีน ทำให้เขาเกิดความสนใจขึ้นมา เมื่อสิ้นปีที่แล้ว อยู๋ ชุน เสียเรียนจบแล้วจะเดินทางกลับประเทศ ทาเตะ มัตสุคูนิฮิคุตกลงติดตามมาจีนด้วย อยู๋ ชุน เสียเล่าว่า
"หลังจากเขาได้รู้ว่า บริเวณเหอหนานใช้เครื่องจักรทำนาทำไร่น้อยมาก ส่วนใหญ่ยังใช้แรงงาน แต่ญี่ปุ่นใช้เครื่องจักรกันหมดแล้ว เขาจึงเกิดความคิดที่จะลงทุนการเกษตรในจีน และเดินทางมาพร้อมดิฉันด้วย"
ตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2008 รัฐบาลจีนได้ปรับปรุงนโยบายการเกษตร โดยใช้มาตรการส่งเสริมเกษตรกรให้เช่าที่ดินกับคนอื่น ที่หมู่บ้านโหยว เหว่ย จื่อมีที่ดินเพาะปลูกกว่า 40 เฮกตาร์หรือประมาณ 250 ไร่ และได้นำร่องปฏิบัตินโยบายที่ดินเพาะปลูกก่อนหมู่บ้านอื่น ปีหลังๆ นี้ ชาวบ้านในหมู่บ้านให้คนอื่นเช่าที่ดินทำการเลี้ยงหมูหรือปลูกเห็ดไปแล้วประมาณครึ่งหนึ่ง แต่เมื่อทาเตะ มัตสุคูนิฮิคุไปขอเช่าที่ดินกับชาวบ้าน พวกเขารู้สึกกังวลขึ้น นายโหยว หวา จิน หัวหน้าคณะกรรมการบริหารหมู่บ้านเล่าว่า
"เพราะว่า ก่อนหน้านี้ ยังไม่เคยมีใครให้คนต่างชาติเช่าที่ดิน ชาวบ้านเป็นห่วงว่า หากชาวญี่ปุ่นเกิดหนีไป จะไปตามตัวเขาที่ไหนได้"
1 2
|