เมื่อคืนวันที่ 5 กรกฏาคมที่ผ่านมา เมืองอุรุมฉีของเขตปกครองตนเองชนชาติอุยกูร์ซิงเกียงของจีนเกิดเหตุการณ์ใช้กำลังรุนแรง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 140 คน บาดเจ็บ 828 คน หลังเกิดเหตุการณ์นี้แล้ว ทางการท้องถิ่นได้จัดกำลังตำรวจเข้าได้ควบคุมเหตุการณ์ได้แล้ว การคมนาคมและสังคมของท้องถิ่นได้คืนสู่ภาวะปกติแล้ว ผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นอาชญากรรมใช้กำลังรุนแรงที่ได้รับคำสั่งจากกลุ่มผู้ต้องการแบ่งแยกดินแดนในต่างประเทศ มีขบวนการจัดการในประเทศ วางแผนไว้ก่อนอย่างรอบคอบ แต่พฤติกรรมเลวร้ายดังกล่าว ไม่สามารถกระทบถึงความสามัคคีของชนชาติต่างๆในเขตซินเกียงความสมานฉันท์และเสถียรภาพของสังคม
เมื่อเที่ยงวันที่ 6 กรกฏาคมนี้ ทางการเขตปกครองตนเองชนชาติอุยกูร์ซินเกียงได้จัดการแถลงข่าว เพื่อแจ้งสภาพที่เกี่ยวข้องของเหตุการณ์ใช้กำลังรุนแรงที่เมืองอุรุมชี แหล่งข่าวแจ้งว่า นอกจากเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บแล้ว อาชญากรยังทุบตีและเผารถยนต์ให้เสียหายกว่า 260 คัน มีร้านค้า 203 แห่งและบ้านพัก 14 หลังถูกทำลาย พื้นที่อาคารก่อสร้างถูกเผามากกว่า 56,000 ตารางเมตร
ตำรวจซินเกียงได้สืบสวนสอบสวนแล้ว พบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุอาชญากรรมใช้กำลังรุนแรงที่มีขบวนการและมีจุดมุ่งหมาย ปลุกระดม วางแผนและสั่งการโดย "การประชุมผู้แทนชาวอุยกูร์โลก" ที่นำโดยนางเรบิยา คาเดียร์ นักต่อสู้แบ่งแยกดินแดน โดยอ้างเหตุการณ์รักษาความสงบที่เกิดขึ้นที่เมืองเสากวานมณฑลกวางตุ้งทางภาคใต้ของจีนเป็นเหตุผล
นายสวี่ เจี้ยน อิง นักวิจัยศูนย์วิจัยประวัติศาสตร์และภูมิประเทศซินเกียงของสภาวิทยศาสตร์สังคมแห่งประเทศจีนได้กล่าวขณะให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า
"หลังปี 2001 พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ระหว่างประเทศ เราเพิ่มกำลังและมาตรการโจมตีกลุ่มก่อการร้ายตุรกีสถานตะวันออกที่ซินเกียง กลุ่มก่อการร้ายทั้งภายในและต่างประเทศ ต่างได้ลดน้อยลง แต่ การที่ว่า จะใช้วิธีไม่ใช้กำลังรุนแรง วิธีที่สันติและสิทธิมนุษยชน เพื่อแสวงหาหนทางให้ซินเกียงเป็นเอกราชนั้น ไม่เคยยุติลง และมีแนวโน้มแข็งกร้าวยิ่งขึ้น โดยเฉพาะหลังปี 2005 นางเรบียา คาเดียร์ไปต่างประเทศแล้ว ได้รวบรวมกำลังของกลุ่มอิทธิพลตุรกีสถานตะวันออกในต่างประเทศ โดยเฉพาะใช้การประชุมผู้แทนชาวอุยกูร์โลก บรรลุการเป็นองค์การสากลที่เป็นเอกภาพ วิธีการที่ใช้ก็มีการเปลี่ยนแปลง เน้นถึงสิทธิมนุษยชนและสันติภาพ แต่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพฤติกรรมก่อการร้ายที่นำโดยแนวร่วมปฏิวัติอิสลามตุรกีสถานตะวันออก ซึ่งกลุ่มหนึ่งอยู่ข้างหน้า อีกกลุ่มหนึ่งอยู่ข้างหลัง"
นายสวี่ เจี้ยน อิง เห็นว่า พฤติกรรมแบ่งแยกดินแดนจะไม่สามารถกระทบถึงความสามัคคีของชนชาติต่างๆในซินเกียงความมั่นคงและความสมานฉันท์ของสังคม เขากล่าวว่า
"พฤติกรรมแบ่งแยกดินแดนซินเกียงไม่เคยยุติมาตลอด แต่มองจากส่วนรวม ไม่เคยส่งผลกระทบต่อความสามัคคีของประชาชนชนชาติต่างๆ และเสถียรภาพกับการพัฒนาของซินเกียงในขั้นพื้นฐาน เนื่องจากซินเกียงมีเสถียรภาพ มีการพัฒนา มีความสามัคคี จึงทำให้พวกเขาวิตกกังวลมาก จนกระทั่งก่อเรื่องขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน รอบ 10 ปีที่ผ่านมา สถานการณ์ซินเกียงดีมาก เหตุการณ์ก่อการร้ายถูกยับยั้งไปแล้ว มีความสงบโดยรวม เศรษฐกิจพัฒนาอย่างรวดเร็ว ชนชาติต่างๆมีความสามัคคี ความสัมพันธ์ระหว่างซินเกียงกับเขตแดนชั้นในแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น กลุ่มอิทธิพลแบ่งแยกอยากจะเป็นอกราช เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้"
ผิง
|