สำนักข่าวกลางของเกาหลีเหนืหอรายงานว่า ภายหลังเกาหลีเหนือประกาศปล่อยตัวผู้สื่อข่าวสาวชาวอเมริกัน 2 คนที่ถูกคุมขังแล้ว นายบิล คลินตัน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯก็ได้สิ้นสุดการเยือนเกาหลีเหนือที่เป็นเวลา 1 วัน และโดยสารเครื่องบินพิเศษเดินทางจากกรุงเปียงยางกลับประเทศพร้อมกับผู้สื่อข่าวสาว 2 คนเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม ตั้งแต่เกาหลีเหนือทดลองนิวเคลียร์เป็นครั้งที่ 2 เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีก็ตกอยู่ในภาวะตึงเครียดมาก คราวนี้ นายบิล คลินตันเยือนเกาหลีเหนืออย่างกระทันหัน ขณะที่เกาหลีเหนือก็ปล่อยตัวผู้สื่อข่าวสาว 2 คนที่จับกุมไว้ เป็นที่จับตามองของสื่อมวลชนทั่วโลกว่า ปรากฏการณ์ดังกล่าวจะสามารถผ่อนคลายสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีหรือไม่

นายบิล คลินตันเดินทางไปเยือนกรุงเปียงยางตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา นับเป็นการเยือนเกาหลีเหนือของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯคนที่ 2 หลังจากนายจิมมี คาร์เตอร์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯเยือนเกาหลีเหนือเมื่อปี 1994 รัฐบาลเกาหลีเหนือให้ความสำคัญระดับสูงต่อการเยือนของนายบิล คลินตันครั้งนี้ โดยนายคิม จอง-อิล ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือได้พบปะกับเขา และจัดงานเลี้ยงต้อนรับ ต่อจากนั้น นายบิล คลินตันได้ไปเยี่ยมผู้สื่อข่าวสาว 2 คนที่ถูกคุมขัง ซึ่งต่อมา เกาหลีเหนือประกาศปล่อยตัวผู้สื่อข่าว 2 คนนี้ ข่าวแจ้งว่า นายคิม จอง-อิล ได้ลงนามในคำสั่งนิรโทษพิเศษ นายบิล คลินตันได้กล่าวขอบคุณนายคิม จอง-อิล และได้นำความปรารถนาของนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯเกี่ยวกับการปรับปรุงความสัมพันธ์สหรัฐฯ-เกาหลีเหนือมาบอกกล่าวกับนายคิม จอง-อิล ทั้งสองได้หารือระดับลึกในปัญหาที่ค้างคาหลายประการด้วยบรรยากาศแห่งความจริงใจและเปิดเผย และเห็นพ้องกันว่า ควรแก้ปัญหาต่างๆด้วยการเจรจา

ถึงแม้การเยือนเกาหลีเหนือของนายบิล คลินตันในครั้งนี้ ทำให้นักข่าวชาวอเมริกัน 2 คนได้รับการปล่อยตัวจากเกาหลีเหนือย่างราบรื่น แต่นายโรเบิร์ต กิบส์ โฆษกทำเนียบขาวกลับปฏิเสธข่าวที่ว่าประธานาธิบดีโอบามาฝากความปรารถนากับนายคลินตันมายังนายคิม จอง-อิล เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ทำเนียบขาวประกาศแถลงการณ์ว่า การเยือนเกาหลีเหนือของนายบิล คลินตัน เป็นการเยือนส่วนตัว ทำเนียบขาวจะไม่วิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้

เจ้าหน้าที่รัฐบาลเกาหลีเหนือแสดงท่าทีหลายครั้งแล้วว่า เกาหลีเหนือจะไม่กลับคืนสู่การเจรจา 6 ฝ่ายอีกแล้ว แต่ไม่ปฏิเสธที่จะเจรจากับสหรัฐฯ นักวิเคราะห์เห็นว่า เป้าหมายของเกาหลีเหนือคือ อยากให้รัฐบาลโอบามาถือปัญหาเกาหลีเหนือเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก และเจรจากับเกาหลีเหนือด้วยความตั้งใจจริงแบบสองต่อสอง แต่จนถึงขณะนี้ สหรัฐฯยังปฏิเสธข้อเสนอของเกาหลีเหนือที่ให้จัดเจรจาทวิภาคี และยืนหยัดที่จะติดต่อกับเกาหลีเหนือภายใต้กรอบการเจรจา 6 ฝ่าย เป็นการสะท้อนอย่างชัดเจนว่า สหรัฐฯกับเกาหลีเหนือยังคงมีความขัดแย้งในปัญหาการจัดการเจรจา จุดยืนของทั้งสองฝ่ายจะเปลี่ยนแปลงหรือไม่ เป็นที่น่าจับตามอง

ส่วนการเยือนเกาหลีเหนือของนายบิล คลินตันในครั้งนี้ สามารถมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาความสัมพันธ์สหรัฐฯ-เกาหลีเหนือและความสัมพันธ์เกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ และผลักดันกระบวนการปลอดนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลีหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับว่าสหรัฐฯกับเกาหลีเหนือมีความจริงใจที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีมากน้อยเพียงไร พิจารณาจากฝ่ายสหรัฐฯ รัฐบาลสหรัฐฯย้ำหลายครั้งแล้วว่าจะไม่นำปัญหาเกาหลีเหนือจับกุมนักข่าวอเมริกัน 2 คนเชื่อมโยงกับปัญหานิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ รัฐบาลโอบามายังคงทุ่มเทกำลังแก้ปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศ ปัญหาอัฟกานิสถานและปัญหาอิรัก เป็นต้น แต่การที่สหรัฐฯใช้ยุทธศาสตร์ การคว่ำบาตรคู่ขนานกับการฟื้นฟูการเจรจากับเกาหลีเหนือนั้น ไม่สามารถทำให้รัฐบาลเกาหลีเหนือพึงพอใจได้แน่นอน ส่วนฝ่ายเกาหลีเหนือเห็นว่า ไม่ว่าปัญหานิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ หรือปัญหายิงขีปนาวุธ โดยแท้ที่จริงแล้วเป็นปัญหาทวิภาคีของเกาหลีเหนือกับสหรัฐฯ ดังนั้น นักวิเคราะห์ชี้ว่า การเยือนเกาหลีเหนือของนายบิล คลินตันจะเป็นผลดีต่อการผ่อนคลายสถานการณ์ตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลี แต่จะมีส่วนช่วยแก้ปัญหาที่สลับซับซ้อนได้หรือไม่นั้น ยังคงต้องจับตามองกันอีกนาน Min/Lu