พราะราชวังฤดูร้อน หรือ อี๋เหอหยวน ตั้งอยู่ในกรุงปักกิ่ง อยู่ใกล้พระราชวังหยวนหมิงหยวน ห่างจากพระราชวังต้องห้ามไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ 8 กิโลเมตร อี๋เหอหยวนมีพื้นที่ประมาณ 2.9 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วยเนินเขาสูง 60 เมตร มีพระตำหนักอยู่บนเนิน และทะเลสาบคุนหมิง ที่มีเนื้อที่ประมาณ 2.2 ตารางกิโลเมตร คิดเป็น 3 ใน 4 ของพื้นที่ทั้งหมด โดยทะเลสบานี้เกิดจากการใช้แรงงานคนขุดดินขึ้นไปถมให้เป็นเนิน สำหรับสร้างพระตำหนัก

อี๋เหอหยวน เริ่มก่อสร้างในสมัยราชวงศ์จิน(ค.ศ.1115-1234) โดยจักะพรรดิไห่หลงหวัง เมื่อย้ายเมืองหลวงมาอยู่ที่ปักกิ่งและเป็นที่ประทับของจักรพรรดิรางวงศ์หยวน จนถึงรัชสมัยของจักรพรรดิเฉียนหลงแห่งราชวงศ์ชิงทรงบูรณะและสร้างพระตำหนักแห่งใหม่บนเนินเขา ในปี ค.ศ.1749 เพื่อถวายแด่พระมารดาในวาระที่พระนางทรงเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา

พระราชวังฤดูร้อนถูกทำลายไปพอสมควรในระหว่างเหตุการณ์สงครามฝิ่น ค.ศ.1856-1860 แต่พระนางซูสีไทเฮากลับมาสร้างและปรับปรุงใหม่ใหม่ในปี ค.ศ.1888 โดยใช้งบประมาณของกองทัพเรือ ส่งผลให้พระราชวังฤดูร้อนกลับมายิ่งใหญ่อลังการอีกครา

สิ่งที่ยังหลงเหลืออยู่ในปัจจุบันได้แก่ ภูเขาอายุวัฒนะ ที่ตั้งอยู่กลางทะเลสาบ และโรงงิ้ว เต้อเหอหยวน ที่พระนางซูสีรไทเฮาเคยใช้เป็นที่แสดงงิ้วครั้งใหญ่ โดยขันทีผู้จงรักภักดีถึง 384 คน

จุดเด่นที่นักท่องเที่ยวควรต้องสัมผัสก็คือ ระเบียงยาว ที่สร้างอย่างสวยสดงดงามลัดเลาะไปตามทะเลสาบ มีความยาวถึง 728 เมตร เพดานหลังคาระเบียงมีภาพวาดเกี่ยวกับเรื่องราวเก่าแก่และนิทานพื้นบ้านของจีน รวมทั้งสิ้นถึง 8,000 ภาพ ระเบียงนี้จะไปสิ้นสุดในบริเวณใกล้ ๆ เรือหินอ่อนที่สร้างอยู่ในทะเลสาบ ซึ่งเป็นเรือที่ตั้งอยู่กับที่ ใช้เป็นสถานที่นั่งเสวยน้ำชาชมทัศนียภาพของพระนางซูสีไทเฮา พราะราชวังฤดูร้อนมีส่วนเกี่ยวข้องกับพระนางซูสีไทเฮาอย่างมาก ทั้งเป็นผู้ปรับปรุง ทั้งเป็นผู้เสด็จมาพักผ่อนเป็นประจำในช่วงฤดูร้อน

ประวัติศาสตร์จีนบันทึกไว้ว่า พระนางซูสีไทเฮาเป็นสตรีเชื้อสายแมนจู บิดามารดานำมาถวายตัวเป็นสนมอันดับที่ 5 ของเสียนเฟิงฮ่องเต้ เมื่อปี ค.ศ.1854 พระนางซูสีไทเฮาไม่ใช่สาวสวยเลิศเลออะไรนัก แต่มีสติปัญญาเฉียบแหลมมาแต่เยาว์วัย ดังนั้น แม้เป็นสนมอันดับ 5 แต่เมื่อพระนางประสูติพระโอรสเมื่อปี 1856 ก็สามารถใช้เพทุบายจนพระโอรส"ไจ่ฉุน"ของพระนางได้รับการแต่งตั้งจากพระราชบิดาให้เป็นรัชทายาท และได้ขึ้นครองราชบัลลังก์ทันทีเมื่อกษัตริ์ยเสียนเฟิงสวรรคต โดยมีพระนามว่าจักรพรรดิถงจื้อ

ระหว่างจักรพรรดิถงจื้อครองราชย์พระนางซูสีไทเฮาก็ยึดกุมพระราชอำนาจไว้และแอบสั่งราชการอยู่หลังพระวิสูตรแต่เพียงผู้เดียว ต่อมาพระโอรสสวรรคต พระนางจึงเสนอตั้งหลานชายพระสวามี หรือพระเจ้ากวางสู้ให้ขึ้นเป็นจักรพรรดิ และยังคงอยู่ภายใต้การชักใยของพระนางเช่นเดิม นับว่าในช่วงเวลาตั้งแต่ ค.ศ.1861 จนถึงวาระสุดท้ายของจักรพรรดิกวางสู้ ค.ศ. 1908 อำนาจการปกครองจีน อยู่ใต้อาณัติของพระนางโดยสิ้นเชิง

พระราชวังฤดูร้อนพร้อมด้วยอุทยานอี๋เหอหยวนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกภายใต้ชื่อ"พระราชวังฤดูร้อนและอุทยานในกรุงปักกิ่ง"เมื่อปี 1998

-------------------------------------------------------------------

คำถาม-สมัยราชวงศ์ชิงจักรพรรดิจีนนิยมไปตากอากาศในช่วงฤดูร้อนที่ไหน?

กรุณาส่งคำตอบทาง sms โดยพิมพ์ CI เว้นวรรคแล้วตามด้วยคำตอบ ส่งมาที่ 4554523