จีนเริ่มใช้ระบบประกันค่าครองชีพขั้นต่ำสุดในตัวเมืองและชนบทเมื่อปี 1999 ท้องที่ต่างๆจะปฏิบัติตามสภาพที่เป็นจริง และกำหนดมาตราฐานประกันค่าครองชีพขั้นต่ำสุด ทางการท้องที่ต่างๆจะให้เงินช่วยเหลือแก่ผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่ามาตราฐานทุกเดือน และทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขามีหลักประกัน ในรายการของวันนี้ ผมขอพาท่านผู้ฟังไปสัมผัสครอบครัวของคู่สามีภรรยาผู้สูงอายุที่ได้รับการประกันค่าครองชีพขั้นต่ำสุด เพื่อรับรู้ชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขา

นายชวิยบั๋วอี้กับหยังซินฉาวภรรยาของเขาอาศัยในเขตชุมชนหย่งเล่อ เขตสือจิ่งซานกรุงปักกิ่ง ขณะผู้สื่อข่าวเดินทางถึงบ้านพักของเขา ได้เห็นชัดว่า บ้านพักของเขาไม่ใหญ่นัก และมีเฟอร์นิเจอร์น้อย แต่ก็ดูสะอาดเรียบร้อย คุณลุงชวิยบั๋วอี้ปีนี้อายุ 73 ปี ส่วนคุณป้าอายุ 68 ปี ทั้งคู่เป็นกรรมกรที่เกษียณแล้ว พวกเขามีลูกสาวหนึ่งคน แต่ไม่ได้ทำงานในกรุงปักกิ่ง ก่อนเกษียณ นายชวิยบั๋วอี้เคยทำงานในโรงงานอาหารแห่งหนึ่ง แต่ว่าเนื่องจากวิสาหกิจนั้นมีการดำเนินงานที่ไม่ดี จึงทำให้เขาไม่มีเงินบำเหน็จบำนาญ รวมถึงการประกันวัยชราและการประกันรักษาพยาบาล ภรรยาของเขาก็ไม่มีรายได้ ดังนั้น ตามนโยบายการประกันค่าครองชีพขั้นต่ำสุด พวกเขาจึงมีสิทธิ์รับประกันค่าครองชีพได้ คุณลุงกล่าวว่า

หลังจากเกษียณเมื่อปี 2000 แล้ว ผมได้รับค่าครองชีพขั้นต่ำสุด สมัยนั้น ผมยังอาศัยอยู่ที่เขตตงเฉิง สำนักงานเขตชุมชนที่นั่นได้ช่วยทำให้ผมเข้าสู่ระบบอย่างเรียบร้อย เวลานั้น ค่าครองชีพขั้นต่ำสุดได้เพียง 100 หยวนเท่านั้น เนื่องจากผมยังพอมีเงินสะสมบ้าง จึงอยู่ได้โดยไม่ลำบากอะไรนั้ก

จนถึงปี 2004 กรุงปักกิ่งมีการพัฒนาเมืองใหม่ คุณลุงชวิยบั๋วอี้จึงซื้อบ้านใหม่ซึ่งเป็นที่ที่อยู่ในปัจจุบันนี้ เวลานั้นที่นี่ยังเป็นช้านเมืองจึงได้รับค่าชดเชยจากรัฐบาล ตั้งแต่นั้นมา พวกเขาได้ย้ายมาอาศัยที่เขตชุมชนหย่งเล่อ คุณป้าหยังนอกจากทำงานบ้านแล้ว ในช่วงเวลาว่างๆ เธอจะเดินไปออกกำลังกายทุกวัน เธอกล่าวว่า

ฉันจะไปออกกำลังกาย และเดินเล่นทุกวัน วันหนึ่งๆเดินประมาณ 3000 เมตร ที่สวนสาธารณะใกล้ๆบ้าน ซึ่งมีบรรยากาศที่ดีมาก

คุณลุงชวิยบั๋วอี้ก็เช่นกัน นอกจากจะช่วยเหลือคุณป้าหยังทำงานบ้านแล้ว เขาก็จะออกกำลังกาย และอ่านหนังสือทุกวัน

นับตั้งแต่จีนเริ่มใช้ระบบประกันค่าครองชีพขั้นต่ำสุดเป็นต้นมา มาตรฐานของค่าครองชีพขั้นต่ำสุดก็เพิ่มขึ้นอย่างมากพร้อมๆกับการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคม ปัจจุบัน การดำรงชีวิตของครองครัวคุณลุงชวิยบั๋วอี้ไม่ต้องใช้เงินสะสมของตนอีก เพราะเงินค่าครองชีพขั้นต่ำสุดได้เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว

คุณลุงชวิยบั๋วอี้กล่าวว่า ถึงปัจจุบัน เราสองคนจะได้เงินค่าครองชีพขั้นต่ำสุดจำนวน 880 หยวนทุกเดือน ซึ่งได้ปรับเพิ่มขึ้นมา 3-4 ครั้งแล้ว ซึ่งครอบคลุมค่าใช้จ่ายทุกอย่าง เพาระเราสองคนใช้จ่ายกันประมาณเดือนละ 700 หยวน

การที่รัฐบาลให้ค่าครองชีพขั้นต่ำสุดสามารถแก้ปัญหาปากท้องของผู้คนได้เป็นอย่างมาก สำหรับผู้สูงอายุแล้ว ค่ารักษาพยาบาลก็เป็นค่าใช้จ่ายจำนวนไม่น้อย แต่สำหรับปัญหานี้นั้น คุณลุงก็ไม่ได้มีความกังวลอะไร เขาบอกกับผู้สื่อข่าวว่า ปัจจุบัน เขากับภรรยาเขาต่างได้รับการประกันวัยชรา ค่าครองชีพขั้นต่ำสุด และการประกันรักษาพยาบาลด้วย คุณลุงกล่าวว่า