ในขณะที่เศรษฐกิจจีนเติบโตอย่างรวดเร็ว ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมก็เผชิญกับแรงกดดันอย่างมาก ฉะนั้น รัฐบาลจีนจึงเพิ่มมาตรการควบคุมการประหยัดทรัพยากรและการปล่อยของเสีย ส่งเสริมพัฒนาอุตสาหกรรมบริการและนิวไฮเทคที่ใช้พลังงานและก่อมลภาวะน้อย ทำให้อุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่ก้าวหน้าและรังสรรค์เทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อขยายโอกาสการพัฒนาอย่างกว้างขวาง
กลุ่มบริษัทปังผู่ในมณฑลกวางตุ้งของจีน เป็นบริษัทขนาดกลางที่ประกอบกิจการด้านอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เน้นการรีไซเคิลและจัดการทรัพยากรเก่า เมื่อเร็วๆ นี้ มณฑลกวางตุ้งจัดงานแสดงสินค้าด้านอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โครงการเกี่ยวกับการรีไซเคิลและจัดการแบตเตอร์รี่เก่าของบริษัทนี้ได้รับความสนใจอย่างยิ่งจากนักลงทุนต่างชาติ นายหยูว์ ไห่ จุน ผู้รับผิดชอบโครงการกล่าวว่า
"เราจะนำแบตเตอร์รี่เก่าทุกชนิด มาทำเป็นวัตถุดิบของแบตเตอร์รี่ใหม่ แล้วขายต่อแก่บริษัทผลิตแบตเตอร์รี่ หลังหมดอายุการใช้งาน เราก็รับคืนกลับมาอีก นี่เป็นการหมุนเวียนที่ไม่ขาดสาย โครงการนี้ ไม่เพียงแต่มีอนาคตในประเทศเท่านั้น ยังเป็นกระแสหลักของโลกด้วย โดยเฉพาะในการประหยัดทรัพยากรและส่งเสริมเศรษฐกิจแบบหมุนเวียน"
นายหลิว จื่อ ฉวน รองอธิบดีกรมมาตรการแห่งเทคโนโลยีของกระทรวงรักษาสิ่งแวดล้อมจีนกล่าวว่า อุตสาหกรรมที่รักษาสิ่งแวดล้อมได้พัฒนาอย่างรวดเร็วในประเทศจีน เนื่องจากหลายปีมานี้ รัฐบาลจีนให้ความสำคัญต่อการนี้ มีนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนด้านเงินทุนด้วยในด้านนี้ เขากล่าวว่า
"การพัฒนาอุตสาหกรรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ได้พัฒนาคู่กับกิจการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของจีน โดยเฉพาะการยกระดับการก่อสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานแบบอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้มีคุณภาพสูงขึ้น รัฐบาลเริ่มต้นโครงการประหยัดพลังงานและลดการถ่ายเทของเสีย และยังมีนโยบายขับเคลื่อนความต้องการภายในประเทศ ส่งเสริมการบำบัดน้ำเสีย เป็นต้น กล่าวได้ว่า อุตสาหกรรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเริ่มมีอนาคตที่ดี เป็นกำลังสำคัญของการเติบโตทางเศรษฐกิจใหม่"
นายหลิว จื้อ ฉวน กล่าวว่า ตั้งแต่วิกฤตการเงินโลกลุกลามไปทั่ว จีนได้เพิ่มการลงทุนในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โครงการใช้เงินทุน 4 ล้านล้านหยวนเพื่อขยายความต้องการภายในประเทศนั้น มี 3 แสนล้านหยวนทุ่มลงในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมโดยตรง นอกจากนี้ จีนยังไม่จำกัดลู่ทางการส่งเสริมอุตสาหกรรมเช่นในอดีต บัดนี้ ได้อนุญาตให้บริษัทอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเข้าตลาดหลักทรัพย์เพื่อระดมทุน ทำให้อุตสาหกรรมดังกล่าวเปิดกว้างสู่ตลาดมากขึ้น
แต่การพัฒนาอย่างรวดเร็ว ก็ก่อให้เกิดปัญหาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่ไม่น้อย เช่น เทคโนโลยีของอุปกรณ์และผลิตภัณฑ์ยังมีระดับสมรรถนะไม่สูงเท่าที่ควร ไม่สามารถสนองความต้องการอย่างเต็มที่ในด้านบริหารสิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงาน ช่องทางการระดมทุนยังมีไม่มาก ส่วนใหญ่อาศัยการสนับสนุนเงินจากรัฐบาล นายหลิว จื้อ ฉวน จึงกล่าวว่า รัฐบาลได้ออกนโยบายจำนวนหนึ่งเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว เขากล่าวว่า
"ประการแรก รัฐบาลจะเสริมการวางแผนอุตสาหกรรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในภาพรวม ปัจจุบันกำลังร่างโครงการฟื้นฟูอุตสาหกรรมประหยัดพลังงานและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอยู่ จะผลักดันอุตสาหกรรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้พัฒนาอย่างทั่วด้าน และนำพาเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมสีเขียวพัฒนาก้าวหน้าไปด้วย ประการที่สอง ส่งเสริมการประดิษฐ์คิดค้นในด้านเคนโนโลยีใหม่ๆ เรียนรู้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ผลักดันอุตสาหกรรมดังกล่าวก้าวสู่ระดับที่สูงขึ้น ประการที่สาม หาวิถีทางในการระดมเงินทุน สนับสนุนให้บริษัทอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมขนาดกลางและขนาดย่อมพัฒนาไปด้วยดี"
เท่าที่ทราบ จีนจะลงทุนในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น อาจจะมากถึง 1 ล้านล้าน 4 แสนล้านหยวน ซึ่งคิดเป็น 1.5%ในจีดีพีของประเทศในปีเดียวกัน
ผิง
|