วันที่ 8 สิงหาคมนี้ นายเฉิน จู๋ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขจีนกล่าวที่กรุงปักกิ่งว่า ในช่วง 60 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่สถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน กิจการสาธารณสุขจีนได้ประสบผลสำเร็จอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งไม่เพียงแต่คืบหน้าในการป้องกัน ตรวจ และรักษาโรคเท่านั้น หากยังสามารถปรับปรุงระบบประกันการรักษาพยาบาลทั้งในเมืองและชนบทให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน ดัชนีสุขภาพประชาชนจีนนำหน้าประเทศกำลังพัฒนา
"ในช่วง 60 ปีที่ผ่านมา จีนได้จัดตั้งระบบบริการการรักษาพยาบาลที่ครอบคลุมทั้งเมืองและชนบทในเบื้องต้น ได้เพิ่มความสามารถในการป้องกันและรักษาโรคให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น ระบบประกันการรักษาพยาบาลได้ครอบคลุมประชากรจำนวนมากยิ่งขึ้น ระดับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสาธารณสุขได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ขณะนี้ สุขภาพของประชาชนได้รับการปรุบปรุงให้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ดัชนีสุขภาพที่สำคัญของประชาชนจีนอยู่ในระดับแนวหน้าของประเทศกำลังพัฒนา"
ในการแถลงข่าวของสำนักงานสารนิเทศคณะรัฐมนตรีจีนวันนี้ นายเฉิน จู๋กล่าวว่า จีนกำลังมุ่งปฏิรูประบบประกันการรักษาพยาบาลอย่างเป็นขั้นตอน
"เมื่อทศวรรษที่ 1990 จีนเริ่มนโยบายปฏิรูประบบประกันการรักษาพยาบาล ผลักดันการสร้างระบบประกันการรักษาพยาบาลทุกด้านอย่างแข็งขัน จนถึงปลายปี 2008 ผู้เข้าร่วมระบบประกันการรักษาพยาบาลในเมืองและชนบทของจีนมีถึง 318 ล้านคน เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2002 รัฐบาลจีนประกาศใช้นโยบายระบบประกันการรักษาพยาบาลแบบสหกรณ์ในชนบท ถึงปัจจุบัน ระบบประกันดังกล่าวได้ครอบคลุมทุกเมืองที่มีเกษตรกร ซึ่งมีผู้เข้าร่วมจำนวน 833 ล้านคน ระบบดังกล่าวสร้างประโยชน์แก่เกษตรกรจำนวนมากยิ่งขึ้น และแสดงบทบาทสำคัญมากขึ้นในการผ่อนคลายแรงกดดันด้านการรักษาพยาบาลของเกษตรกรให้น้อยลง"
เมื่อเดือนเมษายน ปีนี้ รัฐบาลจีนกำหนดทิศทางการปฏิรูปและพัฒนากิจการสาธารณสุขจีนสมัยใหม่อย่างชัดเจน โดยเน้นว่า จะเปิดระบบการรักษาพยาบาลขั้นพื้นฐานต่อประชาชนทั้งปวง บรรลุเป้าหมายที่ให้ทุกคนสามารถใช้บริการการรักษาพยาบาลขั้นพื้นฐาน คาดว่าจนถึงปี 2011 ระบบประกันการรักษาพยาบาลขั้นพื้นฐานจะครอบคลุมประชาชนทั้งในเมืองและชนบททุกแห่ง จะกำหนดนโยบายยาหลัก การปฏิรูปโรงพยาบาลของรัฐจะได้รับผลคืบหน้า แรงกดดันของประชาชนด้านค่ารักษาพยาบาลจะคลายลงอย่างชัดเจน
นายเฉิน จู๋ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขจีนกล่าวว่า ในกระบวนการปฏิรูปด้านการรักษาพยาบาล การปฏิรูปโรงพยาบาลของรัฐเป็นประเด็นสำคัญและเป็นปัญหาที่แก้ยาก ขณะนี้ การกำหนดมาตรการที่เกี่ยวข้องได้เข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายแล้ว และจะประกาศต่อสังคมในไม่ช้านี้
"เราก็รวบรวมความคิดเห็นของทางการท้องถิ่นและผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องในหน่วยงานรักษาพยาบาล สรุปแล้วมีหลักการสองประการ ประการแรกคือ การปฏิรูปโรงพยาบาลของรัฐต้องประกันให้ประชาชนได้รับบริการด้านการรักษาพยาบาลขั้นพื้นฐานที่มีความปลอดภัย มีประสิทธิผล สะดวก และค่าใช้จ่ายน้อย ประการที่สองคือ ต้องรณรงค์ให้เกิดความกระตือรือร้นในระบบการรักษาพยาบาล โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์"
Zhou/Sun
|