** จีนกับเมียนม่าร์มีความสัมพันธ์กันมาตั้งแต่ราชวงศ์ฮั่น ตามข้อมูลทางประวัติศาสร์ระบุว่า ในสมัยราชวงค์ถัง เจ้าชายของแคว้นเปียวของเมียนม่าร์นำคณะนาฏศิลป์ที่มีสมาชิก 35 คนมาเจริญความสัมพันธ์กับประเทศจีน ในฐานะทูตมิตรภาพ ปั๋ย จวูอี้และหยวน เจิ้น นักกวีที่มีชื่อเสียงของราชวงค์ถังต่างเคยเขียนบทกวี ชื่นชมการแสดงที่ยอดเยี่ยมของคณะนาฏศิลป์ของแคว้นเปียวไว้ ราชสำนักของราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิงต่างเปิด"หอพม่า" ซึ่งเป็นศูนย์รับผิดชอบการแปล โดยเชิญชวนนักวิชาการเมียนม่าร์สอนและแปลภาษาเมียนม่าร์ ในยุคปัจจุบัน จีนกับเมียนม่าร์ให้ความเห็นอกเห็นใจและการสนับสนุนซึ่งกันและกันในการต่อสู้ผู้รุกรานเพื่อความเป็นเอกราชแห่งชาติ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทางหลวงเดียนเหมี่ยน?ระหว่างมณฑลยูนนาน-เมียนม่าร์?ซึ่งมีความยาว 1,146 กิโลเมตรเป็นช่องทางทางยุทธศาสตร์ที่ประเทศต่างๆขนส่งสิ่งของมาช่วยเหลือประเทศจีน เพื่อให้การสนับสนุนประชาชนจีนต่อต้านการรุกรานญี่ปุ่น
** หลังจากสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนขึ้น เมียนม่าร์เป็น 1 ในประเทศที่ไม่ใช่ประเทศสังคมนิยมแต่รับรองสาธารณรัฐประชาชนจีนตั้งแต่แรก จีนกับเมียนม่าร์สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตขึ้นในวันที่ 8 มิถุนายน ปี 1950 และส่งเอกอัคราชทูตไปประจำซึ่งกันและกัน
** ในช่วงปี 1950 จีนกับเมียนม่าร์ร่วมกันเสนอหลักการอยู่ด้วยกันอย่างสันติ 5 ประการ
** ในช่วงปี 1960 สองประเทศได้แก้ปัญหาพรมแดนที่ตกค้างอยู่ในประวัติศาสตร์อย่างเรียบร้อยด้วยการปรึกษาหารือกันอย่างไมตรีและเข้าใจซึ่งกันและกัน เป็นตัวอย่างของการแก้ปัญหาพรมแดนระหว่างประเทศ
** ผู้นำระหว่างสองประเทศมีประเพณีการเยือนซึ่งกันและกัน เช่น นายโจว เอินไหล นายกรัฐมนตรีจีนไปเยือนเมียนม่าร์ 9 ครั้ง นายอู เนวิน ประธานาธิบดีเมียนม่าร์มาเยือนจีน 12 ครั้ง ในปี1960 นายอูนูนายกรัฐมนตรีเมียนม่าร์ได้นำคณะผู้แทนที่ประกอบด้วยผู้แทนด้านวัฒนธรรม ศิลปะและภาพยนตร์กว่า 400 คนมาเยือนจีน ในปี 1961 นายโจว เอินไหล นายกรัฐมนตรีจีนนำคณะผู้แทนกว่า 530 คน เยือนเมียนม่าร์
** ปี 1971 จีนกับเมียนม่าร์ลงนามข้อตกลงทางการค้า ซึ่งทั้งสองฝ่ายให้สิทธิพิเศษซึ่งกันและกัน
** ปี 1992 จีนกับเมียนม่าร์ได้จัดตั้งกลไกปรึกษาหารือทางการทูต จนถึงปัจจุบัน สองประเทศมีการปรึกษาหารือทางการทูตระดับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ 9 ครั้ง
** ปี 1994 รัฐบาลจีนกับเมียนม่าร์ได้ลงนามบันทึกช่วยจำเกี่ยวกับการค้าชายแดนระหว่างสองประเทศ
** ปี 1994 และปี 1996 จีนได้อัญเชิญพระสารีริกธาตุพระแก้วเขี้ยวไปประดิษฐานในเมียนม่าร์ 2 ครั้ง และได้รับการต้อนรับอย่างดีจากรัฐบาลและประชาชนวงการต่างๆ ของเมียนม่าร์
** ปี1997 รัฐบาลสองประเทศลงนามข้อตกลงเกี่ยวกับการจัดตั้งคณะกรรมการความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้าและเทคโนโลยี
** เดือนมีนาคมปี 1997 สองประเทศลงนามข้อตกลงเกี่ยวกับการบริหารและความร่วมมือระหว่างพรมแดนสองประเทศใน และดำเนินความร่วมมือเกี่ยวกับการปราบปรามยาเสพติดในบริเวณชายแดน
** ปี 2000 เพื่อเฉลิมฉลองในวาระที่จีนกับเมียนม่าร์สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตครบรอบ 50 ปี พลเอกหม่องเอ รองประธานคณะกรรมการสันติภาพกับการพัฒนาแห่งชาติเมียนม่าร์มาเยือนจีน และนายหู จิ่นเทา รองประธานาธิบดีจีนไปเยือนเมียนมาร์ ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับกรอบเอกสารความร่วมมือแบบทวิภาคีในอนาคต เพื่อชี้ทิศทางการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในทศวรรษที่ 21
** ปี 2001 รัฐบาลจีนกับเมียนม่าร์ได้ลงนามข้อตกลงเกี่ยวกับการส่งเสริมและการรักษาการลงทุน
** เดือนธันวาคม ปี 2001 นายเจียง เจ๋อหมิน ประธานาธิบดีจีนไปเยือนเมียนม่าร์อย่างเป็นทางการ นับเป็นครั้งแรกที่ผู้นำสูงสุดของจีนไปเยือนเมียนม่าร์ มีความหมายสำคัญที่เป็นป้ายบอกระยะทางในประวัติศาสตร์ระหว่างจีนกับเมียนม่าร์ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องต้องกันในความร่วมมือต่างๆ เช่น การบุกเบิกพัฒนาการเกษตร บุคคลกรและทรัพยกรธรรมชาติ และการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐาน ทั้งสองฝ่ายยังได้ลงนามในเอกสารการพัฒนาความสัมพันธ์ในฐานะประเทศเพื่อนบ้านระหว่างจีนกับเมียนม่าร์ในศตวรรษใหม่
** เดือนมกราคมปี 2003 พลเอกอาวุโสตานฉ่วย ประธานคณะกรรมการสันติภาพและการพัฒนาแห่งชาติเมียนม่าร์มาเยือนจีน และพลเอกหม่องเอ รองประธานคณะกรรมการสันติภาพและการพัฒนาแห่งชาติเมียนม่าร์ มาเยือนจีนในเดือนสิงหาคมปีเดียวกัน
** เดือนพฤศจิกายนปี 2004 พลเอกโซวิน นายกรัฐมนตรีเมียนม่าร์มาตามคำเชิญของรัฐบาลจีนและนำคณะเข้าร่วมงานมหกรรมอาเซียน จีนที่จัดขึ้นในเมืองหนาน หนิง
** วันที่ 24 มีนาคม ปี 2004 นางอู๋ อวี๋ รองนายกรัฐมนตรีจีนไปเยือนเมียนม่าร์ สองประเทศลงนามบันทึกช่วยจำเกี่ยวกับการส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้า การลงทุนและเศรษฐกิจ
** ปี 2005 เป็นปีที่จีนกับเมียนม่าร์สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตครบรอบ 55 ปี ในเดือนเมษายน ปีเดียวกัน นายหู จิ่นเทา ประธานาธิบดีจีนกับพลเอกอาวุโสตานฉ่วย ประธานคณะกรรมการสันติภาพและการพัฒนาแห่งชาติเมียนม่าร์ได้พบปะกันในช่วงการประชุมสุดยอดเอเชียและแอฟริกาในกรุงจาการ์ตา
** เดือนมิถุนายนปี 2007 พล.อ.เต็งเส่ง เลขาธิการคนที่หนึ่งของคณะกรรมการสันติภาพและการพัฒนาแห่งชาติเมียนม่าร์มาเยือนจีน
** เดือนสิงหาคมปี 2008 พล.อ.เต็งเส่ง นายกรัฐมนตรีเมียนม่าร์มาเยือนจีนและเข้าร่วมพิธีเปิดงานกีฬาโอลิมปิกกรุงปักกิ่ง และเข้าร่วมพิธีเปิดงานมหกรรมจีนอาเซียนครั้งที่ 5 ที่จัดขึ้นในเดือนตุลาคมปีเดียวกัน
** ปี 2008 ยอดการค้าระหว่างจีนกับเมียนม่าร์สูงถึง 2,630 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 26.4% เมื่อเทียบกับปี 2007
** เดือนมีนาคมปี 2009 นายหลี่ ฉางชุน กรรมการประจำกรมการเมืองของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนและพล.อ.เฉิน ปิ่งเต๋อ ผู้บัญชาการใหญ่กองทหารปลดแอกประชาชนจีนไปเยือนเมียนม่าร์ตามลำดับ
** เดือนเมษายนปี 2009 พล.อ.เต็งเส่ง นายกรัฐมนตรีเมียนม่าร์เข้าร่วมการประชุมประจำปี 2009 ของฟอรั่มเอเชียโป๋ว อ๋าว ตามคำเชิญจากนายสี จิ้นผิง รองประธานาธิบดีจีน และพล.อ.หม่องเอ รองประธานคณะกรรมการสันติภาพและการพัฒนาแห่งชาติเมียนม่าร์มาเยือนจีนอย่างเป็นทางการในเดือนมิถุนายนปี 2009
kt
|