สถานีวิทยุซีอาร์ไอรายงานว่า วันที่ 15 กันยายนนี้ นายจอร์จ มิทเชลล์ ทูตพิเศษปัญหาตะวันออกกลางของประธานาธิบดีสหรัฐฯจัดการเจรจากับนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลและนายมาห์มูด อับบาส ประธานองค์กรอำนาจแห่งชาติปาเลสไตน์ตามลำดับ เพื่อส่งเสริมให้ปาเลสไตน์กับอิสราเอลฟื้นฟูการเจรจาอย่างสันติระหว่างการประชุมสมัชชาสหประชาชาติในปลายเดือนนี้ แต่การเจรจาไม่ได้รับผลงานที่น่าพอใจ
เช้าวันเดียวกัน นายมิทเชลล์จัดการเจรจาลับเป็นเวลาประมาณ 2 ชั่วโมงกับนายเนทันยาฮู ประเด็นสำคัญคือปัญหาแหล่งที่อยู่อาศัยของชาวยิวในบริเวณฝั่งตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดนและเยรูซาเลมตะวันออก แต่นายเนทันยาฮูไม่ยอมอ่อนข้อต่อข้อเรียกร้องของสหรัฐฯที่เสนอให้อิสราเอลหยุดการสร้างแหล่งที่อยู่อาศัยของชาวยิว ดังนั้น ปาเลสไตน์จึงไม่อาจยอมรับจุดยืนดังกล่าวของอิสราเอลได้
คืนวันเดียวกัน การเจรจาระหว่างนายมิทเชลล์กับนายอับบาสก็ไม่มีผลคืบหน้า นายอับบาสกล่าวเน้นหลายครั้งว่า เมื่อไรอิสราเอลหยุดการสร้างแหล่งที่อยู่อาศัยของชาวยิวในบริเวณฝั่งตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดนและเยรูซาเลมตะวันออกทั้งหมด ปาเลสไตน์จึงจะพิจารณาว่าจัดการเจรจากับอิสราเอล
นอกจากปัญหาแหล่งที่อยู่อาศัยของชาวยิวแล้ว อิสราเอลกับปาเลสไตน์จะฟื้นฟูการเจรจาหรือไม่ยังมีจากปัจจัยต่างๆ และฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ประการแรกคืออิทธิพลจากสหรัฐฯ หลังจากรัฐบาลโอบามาปกครองประเทศเป็นต้นมา ก็ย้ำหลายครั้งว่ามุ่งให้การสนับสนุนสองประเทศฟื้นฟูการเจรจาบนพื้นฐานแผนการทั้งสองประเทศ ให้ใช้ประเด็นแหล่งที่อยู่อาศัยชาวยิวของอิสราเอลเป็นโอกาสในการส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างปาเลสไตน์กับอิสราเอลตลอดจนระหว่างอาหรับกับอิสราเอลให้เป็นปกติ ดังนั้น สหรัฐฯจึงเริ่มติดต่อกลุ่มอิทธิพลในภูมิภาคนี้ เช่น ซีเรีย เป็นต้น เพื่อได้เปรียบในประเด็นนิวเคลียร์ของอิหร่านและประเด็นกลุ่มหัวรุนแรงของภูมิภาคนี้ แต่ อิทธิพลของสหรัฐฯถูกจำกัดจากปัจจัยต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ ได้แก่ 1. ปัญหาเศรษฐกิจและการปฏิรูปการรักษาพยาบาลภายในประเทศ ทำให้สหรัฐฯลดความสนใจในต่างประเทศ 2. นายมาห์มุด อาห์มาเนจาด ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอิหร่านอีกครั้ง และดำเนินนโยบายนิวเคลียร์ที่แข็งกร้าวอย่างต่อเนื่อง ทำให้อิสราเอลและประเทศอาหรับรอบข้างเกิดความกังวลต่อนิวเคลียร์ของอิหร่าน 3. สหรัฐฯขาดมาตรการที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้อิสราเอลหยุดสร้างแหล่งที่อยู่อาศัยชาวยิว และผลักดันความสัมพันธ์ระหว่างอาหรับกับอิสราเอลให้เป็นปกติ ประการที่สอง คือการตัดสินใจและความยืดยุ่นในนโยบายของอิสราเอลและปาเลสไตน์ ตั้งแต่เมื่อปลายปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน ทหารอิสราเอลก่อสงครามในฉนวนกาซาทำให้ประชาชนอิสราเอลเปลี่ยนแปลงมาให้การสนับสนุนกลุ่มลิคุด เพื่อประกันความมั่นคงของสถานการณ์ทางการเมือง ขณะเดียวกัน ก็ใช้ความพยายามไม่อ่อนข้อในการเจรจาอย่างสันติที่จะจัดขึ้นในอนาคต อิสราเอลจึงใช้นโยบายแข็งกร้าวเกี่ยวกับปัญหาแหล่งที่อยู่อาศัย
สำหรับปาเลสไตน์ การยืนหยัดจุดยืนให้อิสราเอลหยุดการสร้างแหล่งที่อยู่อาศัยเป็นเงื่อนไข้เบื้องต้นที่ฟื้นฟูการเจรจา ก็เป็นความต้องการที่จะรักษาความมั่นคงทางการเมืองของปาเลไสตน์ นายอับบาสกับนายซาลัม เฟย์ยัด นายกรัฐมนตรีปาเลสไตน์ต่างเพิ่มความสนใจกับความต้องการของประชาชน ทางการปาเลสไตน์ที่อยู่ภายใต้การนำของกลุ่มฟาตาห์ก็ใช้มาตรการเกี่ยวกับการปรับปรุงเศรษฐกิจและส่งเสริมการปัญญัติกฏหมายในบริเวณฝั่งตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดน และได้รับผลคืบหน้าบ้าง ถ้าอิสราเอลอ่อนข้อในปัญหาแหล่งที่อยู่อาศัย จะทำให้ประชาชนเปลี่ยนมาสนับสนุนพรรคฝ่ายค้านที่เสนอให้ใช้การเจรจาอย่างสันติเป็นวิธีแก้ปัญหาการปะทะระหว่างปาเลสไตน์กับอิสราเอล
kt
|