ผู้สื่อข่าว:หลายปีที่ผ่านมา ท่านพยายามส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความร่วมมือระหว่างซัวเถากับไทย เหตุใดที่ทําให้ท่านส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างซัวเถากับไทย
พิชัย รัตตกุล:ปู่ย่าตายายของผมมาจากซัวเถา มาจากเถ่งไห้หมู่บ้านตําบลตังเล็ง เพราะฉะนั้น สิ่งที่พ่อ ปู่พ่อสอนมาทุกครั้งบอกว่าต้องอย่าลืม ถึงแม้ไม่ได้เกิดเมืองจีนก็ตาม แต่ว่าปู่ย่าตายายมาจากเมืองจีน ต้องนึกถึงบุญคุณ ประเทศจีนที่ให้ปู่ย่าตายายเกิด เพราะเหตุนี้เอง ทําให้ทุกอย่างประเทศจีนโดยเฉพาะซัวเถาเหมือนกับบ้านที่ 2 ถึงแม้เกิดเมืองไทยแต่ซัวเถาเป็นเมืองที่ 2 พ่อเคยสอนคําหนึ่งบอกว่า ต้องอย่าลืมว่าต้องมีความเกี่ยห่าว ถ้ามีความเกี่ยห่าวสักอย่างหนึ่ง ชีวิตถึงจะราบรื่น เลือดผมความขยันอยู่ในสายเลือด เพราะฉะนั้น ผมเริ่มไปเรียนหนังสือตั้งแต่ 6 ขวบจากพ่อแม่ไป และก็เริ่มทํางานอายุ 16 ขวบ มีความขยัน มีความซื่อสัตว์ มีความเกี่ยห่าว 3 อย่างสําคัญ ซึ่งเป็นนิสัยของคนซัวเถาอยู่แล้ว ถ้าหากผมไม่มีความพยายาม ไม่มีความซื่อสัตว์ ไม่มีความเกี่ยห่าว ผมจะมายืนอยู่ตรงนี้ไม่ได้ในประเทศไทย และถ่ายทอดให้ลูกหลานพี่น้องได้ทราบต่อไป
ผู้สื่อข่าว:ท่านมีความเห็นอย่างไรต่อการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจของซัวเถา
พิชัย รัตตกุล:ใครก็ได้ถ้ามาเมืองจีน ในภาพรวมใหญ่ๆ ทุกคนต้องแปลกใจในการพัฒนา และคนไทยพูดบ่อยๆ ว่า ประเทศจีนทั้งหมดจะพัฒนาในขณะนี้ก็เนื่องจากความคิดปลุกปล่อยของท่านเติ้ง เสี่ยวผิง ที่ว่ารากฐาน 4 ทันสมัยหนึ่ง มันเป็นพื้นฐานนํามาสู่การพัฒนาเศรษฐกิจ เมื่อผมมาจีนเมื่อปี 1975 ตอนนั้นยังไม่มี 4 ทันสมัย ผมไปเยี่ยมคอมมูนต่างๆ เห็นการกินของกรรมกรแย่มาก แต่หลังจากเปลี่ยนแปลงมี 4 ทันสมัยมาแล้ว ทุกอย่างพัฒนา ไม่ว่าไปทางไหนเห็นแต่คนยิ้มแย้มแจ่มใส อาหารการกินเหลือเฟือในเวลานี้ ความแตกต่างที่ทําให้เห็นภายในไม่กี่สิบปี จีนเป็นมหาเศรษฐกิจของโลกในระดับ 3
ผู้สื่อข่าว:ท่านมีความคิดเห็นอย่างไรต่อการเสริมความร่วมมือระหว่างซัวเถากับไทย
พิชัย รัตตกุล:ความจริงขณะนี้ความร่วมมือทางการแลกเปลี่ยนบุคลากร แลกเปลี่ยนกิจการการค้า การลงทุน ที่ซัวเถามีมาก ทั้งนี้ก็เพราะว่าชาวจีนโพ้นทะเลอยู่ที่เมืองไทยมี 80% มาจากซัวเถาทั้งสิ้น ผมพยายามทําการส่งเสริมตลอดเวลามา นอกจากส่งเสริมการแลกเปลี่ยนแล้ว ก็ส่งเสริมให้คนไทยมีลงทุนที่ซัาเถา และขณะเดียวกันก็อยากให้คนซัวเถาไปลงทุนที่ไทย โดยเฉพาะส่งเสริมอย่างยิ่งก็คือการท่องเที่ยว
ผู้สื่อข่าว:ขอบคุณค่ะ
พิชัย รัตตกุล:ขอบคุณครับ
1 2
|