ระหว่างวันที่ 24-25 กันยายน ผู้นำกลุ่มจี 20 จะชุมนุมกันที่เมืองพิตต์สเบิร์กของสหรัฐฯ เพื่อเจรจาประเด็นต่างๆของโลก เช่น การฟื้นฟูเศรษฐกิจ การประชุมสุดยอดครั้งนี้ จัดขึ้นขณะที่เศรษฐกิจโลกปรากฎวี่แววแห่งความมั่นคง ประเทศต่างๆสามารถร่วมมือกันอย่างมีประสิทธิภาพ ประสานนโยบายเศรษฐกิจ ส่งเสริมให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องได้หรือไม่ มีความสำคัญยิ่ง
การจัดการประชุมสุดยอดพิตต์สเบิร์ก อยู่ในช่วงที่เกิดวิกฤตการเงินโลกครบรอบ 1 ปีพอดี ช่วงหลังๆนี้ ตัวเลขเศรษฐกิจของกลุ่มเศรษฐกิจสำคัญของโลก รวมทั้งสหรัฐฯ เยอรมนี ฝรั่งเศส ญี่ปุ่นและจีน ต่างมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี นายโอลิเว่อร์ บลานชาร์ด หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์กองทุนการเงินระหว่างประเทศกล่าวว่า มองจากแนวโน้มการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ปลายปีนี้ เศรษฐกิจโลกอาจจะมีการเติบโตในทางบวก เขากล่าวว่า
"ตัวเลขปรากฎว่า ปัจจุบัน เศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาอาจจะฟื้นฟูการเติบโตในปี 2010 และจะคืนสู่ภาวะปกติในปลายปี 2010 ประเทศพัฒนาใหม่และประเทศกำลังพัฒนาอาจฟื้นตัวเร็วกว่า แต่จะฟื้นตัวถึงระดับปกติ ต้องดูสภาพการฟื้นตัวของประเทศพัฒนา"
แม้ว่าปัจจุบันสถานการณ์เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มดีขึ้น แต่นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งชี้ว่า เนื่องจากวิกฤตการเงินมีผลกระทบกว้างขวางและลุ่มลึก ผู้คนยังไม่น่ามองสถานการณ์เศรษฐกิจในแง่ดี นายเจฟเฟอร์รี ชาเฟอร์ ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งผู้ช่วยระดับสูงในที่ประชุมรัฐมนตรีกระทรวงการคลังกลุ่มจี 8 และการประชุมผู้ว่าการธนาคารโลกเห็นว่า การประชุมสุดยอดกลุ่มจี 20 เป็นการประชุมสำคัญก่อนเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว ควรเสร็จสิ้นภารกิจอย่างเป็นรูปธรรมดังต่อไปนี้ เพื่อส่งเสริมให้เศรษฐกิจโลกไปสู่การฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง เขากล่าวว่า
"ประการแรก ควรรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจ ผู้นำประเทศต่างๆไม่ควรจะได้ผลสรุปที่ผิดพลาดว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกเป็นเรื่องแน่นอน ประการที่สอง ควรดำเนินการปฏิรูประบบการเงิน บัดนี้ถึงเวลาแล้ว รัฐบาลประเทศต่างๆควรเรียนรู้ประสบการณ์จากวิกฤตฯ ประการที่สาม ควรวางขั้นตอนใหม่ในการกำหนดนโยบายของสถาบันการเงินโลก เนื่องจากสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้องมีสมาชิกเพิ่มมากขึ้น ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญของความร่วมมือระหว่างประเทศ และประการที่สี่ เราควรใช้ปฏิบัติการทั่วโลกเพื่อรับมือกับปัญหาความไม่สมดุล"
ผิง
|