วันที่ 1 ตุลาคมเป็นวันครบรอบ 60 ปีแห่งการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน ในวันนั้น จะมีกิจกรรมเฉลิมฉลองครั้งยิ่งใหญ่ที่จัตุรัสเทียนอันเหมินของกรุงปักกิ่ง ซึ่งพิธีตรวจพลสวนสนามเป็นส่วนประกอบหนึ่งที่สำคัญของกิจกรรมครั้งนี้ เมื่อเทียบกับในอดีต พิธีตรวจพลฯปีนี้มีลักษณะเด่นชัดว่า ทหารที่เข้าร่วมพิธีนี้ส่วนใหญ่เป็นทหารหนุ่มที่เกิดหลังทศวรรษที่ 1980 เมื่อเร็วๆนี้ ผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอไปสัมภาษณ์ในเขตฝึกการตรวจพลฯที่ตำบลซาเหอของกรุงปักกิ่ง และได้สัมผัสกับชีวิตของทหารหนุ่มเหล่านี้ และพบว่า พวกเขามีการศึกษาสูง มีความรู้กว้าง มีปฏิภาณไหวพริบ มีความอดทนสูง และมีความรับผิดชอบ เป็นตัวแทนคนหนุ่มที่แสดงถึงโฉมหน้าใหม่ของประเทศจีน

นายหม่า เผยฮ่าวอายุ 24 ปีเป็นหัวหน้าขบวนกองทหารเรือ และเป็นคนแรกที่ต้องเดินเข้าจัตุรัสเทียนอันเหมินของขบวนกองทหารเรือในพิธีตรวจพลครั้งนี้ ทหารหนุ่มคนนี้เป็นนักศึกษาปริญญาโทของสถาบันเรือรบกองทหารเรือเมืองต้าเหลียน แม้ว่าอายุยังไม่มาก แต่เขามีประสบการณ์สูง เพราะนี่เป็นครั้งที่ 3 ที่เขาเข้าร่วมพิธีตรวจพลสวนสนาม เขากล่าวว่า

"ครั้งแรกคือเดือนเมษายนปีที่แล้ว ผมนำนักศึกษาอีกหลายคนไปเข้าร่วมพิธีตรวจพลทหารเรือในเมืองลิวอร์โนของอิตาลี ครั้งที่สองคือ ปีที่แล้ว ผมไปเข้าร่วมการแล่นเรือใบรอบโลกซึ่งจัดโดยกองทัพเรือชิลี ในวันที่ 18 กันยายนซึ่งตรงกับวันชาติชิลี และวันที่ 19 กันยายนเป็นวันทหารบกของชิลี ผมก็ได้เข้าร่วมพิธีตรวจพลซึ่งจัดขึ้นบนเรือในเวลานั้น"

อันที่จริง ในขบวนของกองทหารตรวจพล ยังมีทหารหนุ่มที่มีการศึกษาสูงและมีประสบการณ์เยอะอย่างนายหม่า เผยฮ่าวอีกจำนวนมาก ทหารที่เข้าร่วมในการตรวจพลฯส่วนใหญ่ล้วนเกิดหลังทศวรรษที่ 1980 และมีผู้ที่เรียนจบระดับปริญญาตรีจำนวนกว่า 1,300 คน คิดเป็น 40% ของทหารทั้งหมดที่เข้าร่วมพิธีครั้งนี้ ส่วนผู้ที่จบปริญญาโทมีจำนวนกว่า 60 คน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ในขณะที่เศรษฐกิจและสังคมจีนพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว คุณภาพทางวัฒนธรรมการศึกษาของจีนเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

คนรุ่นใหม่ที่เกิดหลังทศวรรษ 1980 ส่วนใหญ่เป็นลูกคนเดียวของครอบครัว มีผู้คนจำนวนไม่น้อยเห็นว่า เยาวชนรุ่นนี้ไม่ค่อยมีความอดทนสูง เพราะได้รับการดูแลจากพ่อแม่อย่างดีมาตั้งแต่เด็ก แต่ผู้สื่อข่าวได้เห็นว่า ตอนที่ทำการฝึก ทหารเหล่านี้สามารถยืนนิ่งไม่ขยับตัวได้เป็นเวลาหลายชั่วโมงติดต่อกัน นายเหอ ฉี อายุ 20 ปี เป็นทหารประจำกองทหารปืนใหญ่ ในฐานะที่เป็นทหารชนชาติผู่หมี่ ซึ่งเป็นชนชาติส่วนน้อยในมณฑลยูนนานของจีน เขารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง เขากล่าวว่า