เมื่อเร็วๆนี้ กรมสถิติกรุงปักกิ่งประกาศว่า ในช่วง 60 ปีนับตั้งแต่จีนใหม่สถาปนาขึ้นเป็นต้นมา เศรษฐกิจของกรุงปักกิ่งเติบโตอย่างรวดเร็ว เมื่อปี 2008 ยอดมวลรวมการผลิตมีกว่า 1 ล้านล้านหยวน เมื่อเทียบกับ 60 ปีก่อนเพิ่มขึ้นกว่า 300 เท่า

นางหยูเซี่ยวฉิน รองอธิบดีกรมสถิติกรุงปักกิ่งกล่าวว่า

เศรษฐกิจประชาชาติจีนเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว พลังการพัฒนาในทุกๆด้านเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โครงสร้างทางเศรษฐกิจปรับดีขึ้น ทำให้กำลังการผลิตเข้มแข็งกว่าที่เคยเป็นมา ระบบการตลาดมีความสมบูรณ์และพัฒนาอย่างคึกคัก และการค้าระหว่างประเทศพัฒนาก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว

สถิติแสดงว่า ปี 2008 มวลรวมการผลิต ของกรุงปักกิ่งมีประมาณ 1.05 ล้านล้านหยวน เมื่อเทียบกับเมื่อปี 1952 แล้วเพิ่มขึ้นประมาณ 318 เท่า ความเร็วในการเพิ่มขึ้นของมวลรวมการผลิตค่อยๆกระเตื้องจากช่วงเริ่มต้นแล้วเร่งอัตราความเร็วขึ้นเรื่อยๆ กรุงปักกิ่งใช้เวลา 26 ปีในการเพิ่มมวลรวมการผลิตให้มีกว่า 10,000 ล้านหยวน ต่อมาอีก 16 ปีเพิ่มขึ้นถึง 100,000 ล้าน และเพียงใช้เวลา 14 ปีในการทำให้มูลค่ามวลรวมการผลิตของกรุงปักกิ่งมี กว่า 1 ล้านล้านหยวนแล้ว

สถิติแสดงว่า นับตั้งแต่จีนเริ่มดำเนินนโยบายการปฏิรูปและเปิดประเทศเป็นต้นมา การค้าระหว่างประเทศของกรุงปักกิ่งพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เมื่อปี 2008 ยอดนำเข้าและส่งออกของกรุงปักกิ่งมีมูลค่า 80,000 ล้านหยวน คิดเป็นประมาณ 300 เท่า เมื่อเทียบกับระยะเวลาในช่วงต้นการดำเนินการปฏิรูปและเปิดสู่ภายนอก เนื่องจากการไปมาหาสู่กันกับระหว่างประเทศเพิ่มมากขึ้น กรุงปักกิ่งได้กลายเป็นสถานที่ที่น่าสนใจอย่างมากของนักลงทุนและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ

เมื่อเร็วๆนี้ นิตยสารฟอรับส์(Forbes)ประกาศว่า กรุงปักกิ่งเป็นเมืองแห่งการค้าอันดับที่ 15 ของโลก นายสวี่คัง โฆษกคณะกรรมการการค้าแห่งกรุงปักกิ่งกล่าวให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า สาเหตุสำคัญเพราะ กำลังทางเศรษฐกิจของกรุงปักกิ่งมีการเพิ่มขึ้นอย่างสูงและระดับการเปิดสู่ภายนอกก็มีลักษณะกว้างขึ้น เขากล่าวว่า

ครึ่งแรกปีนี้ กรุงปักกิ่งได้อนุมัติให้ธุรกิจทุนต่างชาติกว่า 30,000 รายมาลงทุน กรุงปักกิ่งได้กลายเป็นมหานครสากล ซึ่งได้สร้างเงื่อนไขที่ดีเพื่อส่งเสริมให้ธุรกิจค้าปลีกของต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาเปิดสาขาในกรุงปักกิ่ง ครึ่งหลังปีนี้ ยังมีธุรกิจค้าปลีกชื่อดังของต่างประเทศพากันเข้าเปิดบริการที่กรุงปักกิ่งอีก ซึ่งนับเป็นแนวโน้มที่ดี

ในขณะที่พัฒนาเศรษฐกิจ ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในกรุงปักกิ่งก็มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ช่วงที่จีนใหม่เพิ่งสถาปนาขึ้นนั้น เศรษฐกิจยังด้อยพัฒนามาก ประชากรในเมืองและชนบทมีรายได้ค่อนข้างต่ำ และมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ยากลำบาก คุณยายหลิวกุ้ยเซียนหญิงชราวัย 77 ปีเล่าว่า

สมัยนั้น บ้านเรายากจนมาก เนื่องจากยายมีลูกหลายคน และมีรายได้น้อย ดังนั้น การทำมาหากินจึงค่อนข้างลำบาก บางช่วงมีอาหารกินวันละสองมื้อเท่านั้น บางครั้งก็ไม่มีกิน พอถึงฤดูหนาวยิ่งลำบากเข้าไปอีก ครอบครัวของยายมีทั้งหมด 7 คน แต่มีผ้าห่มเพียง 2 ผืนเท่านั้น