ขอต้อนรับเข้าสู่รายการเศรษฐกิจจีน พบกับดิฉันผิงผิงเช่นเคยนะคะ อีกไม่กี่วัน จะเป็นวันชาติจีน ประชาชนทั่วประเทศจีนกำลังพากันเฉลิมฉลองกันอย่างคึกคัก รายการวันนี้ เรามาทบทวนหนทางการพัฒนาประเทศให้ทันสมัยของจีนหน่อยนะคะ

ช่วงเริ่มแรกการสถาปนาประเทศจีนใหม่เมื่อปี 1949 ทุกสิ่งทุกอย่างที่เสื่อมลงล้วนรอการฟื้นตัว อำนาจรัฐชุดใหม่ ซึ่งเหมา เจ๋อตงเป็นผู้นำ ประสงค์จะพัฒนาอุตสาหกรรมประชาชาติโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ด้วยเงินทุนและเทคโนโลยีที่ทันสมัยของต่างชาติ แต่เนื่องจากสมัยนั้นประเทศตะวันตกดำเนินการคว่ำบาตรต่อจีน จึงต้องหันไปพึ่งพาโซเวียตเพียงประเทศเดียว และยากที่จะเปิดประเทศและร่วมมือกับประเทศอื่นได้ มิตรประเทศมีแต่โซเวียต ประเทศสังคมนิยมในยุโรปตะวันออก และประเทศโลกที่สามในแอฟริกาและลาตินอเมริกาเท่านั้น หลังจากใช้ความพยายาม จีนใหม่ได้สร้างระบบการค้าต่างประเทศที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้ความร่วมมือกับต่างประเทศประสบผลสำเร็จไม่น้อย

ต่อมาเมื่อเดือนธันวาคมปี 1978 มีการประชุมเต็มคณะครั้งที่ 3 ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนชุดที่ 11 และมีนโยบายก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ด้วยการปฏิรูปและเปิดประเทศ

ปี 1980 จีนดำเนินโครงการนำร่องจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษที่เซินเจิ้น เซี่ยเหมิน จูไห่ และซัวเถา ใช้นโยบายนำเข้าเงินทุน เทคโนโลยี และความจัดเจนด้านการบริหารจากตะวันตก จากนั้นมา จีนเปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษเพิ่มในพื้นที่ต่างๆ และเพิ่มสาขาการประกอบการให้ต่างชาติมาลงทุนอีกจำนวนมาก จนกระทั่งถึงขณะนี้ได้เปิดประเทศทั่วทุกด้าน หลายระดับ และหลากสาขา ผลก็คือ จีนเป็นประเทศกำลังพัฒนาที่ดึงดูดทุนต่างชาติมากที่สุดต่อเนื่องกันมาเป็นเวลา 17 ปี ยอดการนำเข้าและส่งออกของในปี 2008 มีมากถึง 2.56 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ เติบโตกว่า 2,000 เท่า เมื่อเทียบกับปี 1950

เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนปี 2001 จีนเข้าเป็นสมาชิกขององค์การการค้าโลก ส่งผลให้การปฏิรูปและเปิดประเทศเข้าสู่ระยะใหม่ จนถึงเวลานี้ จีนมีคู่ค้ามากถึงกว่า 220 ประเทศและเขตแคว้น ได้ลงนามในข้อตกลงคุ้มครองการลงทุนแบบทวิภาคีกับ 129 ประเทศและเขตแคว้น ได้จัดการหารือทางเศรษฐกิจระดับสูงกับสหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่น และแอฟริกา เป็นต้น ระหว่างกลไกหารือระหว่างประเทศต่างๆ จีนได้เปิดความร่วมมือกับต่างประเทศให้กว้างขึ้นและลึกขึ้น สหประชาชาติ ธนาคารโลกและองค์การระหว่างประเทศสำคัญของโลก ต่างให้ความสำคัญแก่ "เสียงจีน" และ "ประสบการณ์จีน" มากขึ้น

ระหว่างกระบวนการดังกล่าว จีนเข้าร่วมการแข่งขันและให้ความร่วมมือกับโลกอย่างแข็งขัน นอกจากนี้ ยังพยายามจักรวมมิตรประเทศให้มารู้จักประเทศจีน และสร้างให้เศรษฐกิจจีนกลมกลืนกับเศรษฐกิจโลก

นายจิน ช่านหรง รองผู้อำนวยการวิทยาลัยความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยเหรินหมินเห็นว่า หากย้อนมองอดีต จีนได้มาซึ่งแรงขับเคลื่อนอย่างไม่มีที่สิ้นสุดจากการเปิดประเทศให้มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคม จีนมีอารยธรรมอันเก่าแก่ อีกทั้งเป็นประเทศที่เจริญขึ้นมาใหม่ ในกระบวนการพัฒนาของประเทศใหม่ เราควรเรียนรู้ด้วยการเปิดประเทศและแสวงหาความร่วมมือ หากไม่มีการเปิดประเทศและความร่วมมือจากนานาประเทศ ก็จะไม่สามารถสร้างจีนให้ทันสมัยขึ้นมาได้ กล่าวสำหรับจีนแล้ว การเปิดประเทศกับความร่วมมือเป็นหนทางสู่ความทันสมัย การเปิดประเทศไปสู่ภายนอกนั้น ไม่เพียงแต่ทำให้จีนรับผลประโยชน์เท่านั้น หากยังสร้างประโยชน์แก่โลกด้วย กล่าวได้ว่า เป็นการขับเคลื่อนกระบวนการพัฒนาสู่ความทันสมัยของมนุษย์ เขากล่าวว่า