ช่วงหลายปีแรกภายหลังสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน จีนดำเนินการค้าต่างประเทศกับไม่กี่ประเทศเท่านั้น เวลานั้น จีนมีประชากรหลายร้อยล้านคน มีพื้นที่กว่า 9.6 ล้านตารางกิโลเมตร แต่ยอดการค้าต่างประเทศยังไม่ถึง 1% ของยอดการค้าทั่วโลก
นโยบายการปฏิรูปและเปิดประเทศทำให้ประเทศจีนซึ่งตกอยู่ในสภาพแร้นแค้นยากจนมากมาเป็นเวลานาน ตัดสินใจเปิดประตูสู่ทั่วโลก หลังจากเจรจาเป็นเวลานานถึง 15 ปี เมื่อวันที่ 11 ธันวาคมปี 2001 จีนเข้าเป็นสมาชิกลำดับที่ 143 ขององค์การการค้าโลกหรือ WTO อย่างเป็นทางการ หลังจากนั้น การค้าต่างประเทศ การนำเข้าทุนต่างชาติ ตลอดจนระบบเศรษฐกิจภายในประเทศของจีน ล้วนเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของ WTO
นายหรงหยุ่งถู หัวหน้าคณะผู้แทนเจรจาเพื่อเข้าเป็นสมาชิก WTO ของจีน เลขาธิการฟอรั่มโป๋เ๋อ๋าเอเชียคนปัจจุบันกล่าวว่า ตอนที่เจาจรกันอยู่ จีนกังวลว่ากิจการด้านการบริการจะได้รับกระทบอย่างรุนแรง แต่หลังจากเข้าร่วม WTO แล้ว กลับมีการพัฒนาอย่างมาก เขากล่าวว่า
"ในระหว่างดำเนินการเจรจา เราเป็นห่วงจุดอ่อนและความยากลำบากของเรามากกว่า แต่ระยะหลัง ๆ เราพบได้ว่า กำลังแข่งขันของวิสาหกิจจีนสูงกว่าที่เราคาดไว้ หลังจากเข้าร่วม WTO แล้ว เราได้รับประโยชน์ในหลายด้าน ซึ่งเดิมเราคิดว่าอาจจะได้รับผลกระทบเช่นการเกษตร เราได้ทราบว่ามาตรฐานสากลของผลิตภัณฑ์เกษตรเป็นอย่างไร รวมถึงมาตรฐานคุณภาพ มาตรฐานด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และมาตรฐานด้านความสะอาด เป็นต้น "
การเข้าร่วม WTO มิเพียงแต่ส่งเสริมการพัฒนาของจีน ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกก็ได้เข้าตลาดใหม่ที่กว้างใหญ่อย่างจีนด้วย
ตามข้อตกลงระหว่างจีนกับ WTO ภาษีศุลกากรของผลิตภัณฑ์เกษตรลดลงอย่างมาก จนถึงปี 2004 ภาษีศุลกากรเฉลี่ยสำหรับผลิตภัณฑ์ 977 ชนิดที่อยู่ในบัญชีรายชื่อลดลงเป็น 15% ขณะที่เวลานั้น ภาษีศุลกากรเฉลี่ยของโลกคือ 62%
การเปิดประตูด้านการเงินก็ทำให้กิจการที่เกี่ยวข้องเกิดการเปลี่ยนแปลงและได้รับผลประโยชน์อย่างมาก ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ของรัฐ 3 แห่งล้วนได้เข้าตลาดหลักทรัพย์ และกลายเป็นธนาคารหุ้นส่วนขนาดยักษ์ระดับโลก นายเจียงเจี้ยนชิง ประธานกรรมการของธนาคารอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรมจีน ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ใหญ่ที่สุดของจีนกล่าวว่า
"เมื่อทบทวนสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในหลายปีที่ผ่านมา เรารู้สึกว่า การแข่งขันเป็นกำลังสำคัญที่ผลักดันการพัฒนากิจการธนาคารจีน ปรับเปลี่ยนทัศนคติของธนาคารพาณิชย์ ส่งเสริมการปฏิรูปของธนาคารพาณิชยกรรมจีน การเปิดประเทศทำให้ธนาคารพาณิชย์จีนสามารถเข้าตลาดการเงินโลก และใช้มาตรฐานสากลเช่นเดียวกับธนาคารระดับโลกอื่น ๆ "
ปี 2008 ยอดการค้าต่างประเทศของจีนมีถึง 2,560,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็น 2,266 เท่าของปี 1950 ขณะนี้ ยอดการค้าต่างประเทศจัดอยู่อันดับ 3 ของโลก รองมาจากสหรัฐฯ และเยอรมนี สัดส่วนที่มีในโลก ก็เพิ่มขึ้นจาก 0.9% เมื่อปี 1950 มาเป็นกว่า 8% เมื่อปี 2008
นอกจากนี้ แนวคิดของ WTO ยังได้แผ่ขยายสู่ด้านต่าง ๆ ของสังคม ประชาชนจีนมีความเข้าใจลึกซึ้งยิ่งขึ้นต่อแนวคิดต่าง ๆ ที่แสดงให้เห็นถึงความเสมอภาค การเปิดเผยและประชาธิปไำตย เช่นแนวคิดที่ว่า "สังคมของประชาชน" "การเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร"และ "รัฐบาลที่ให้การบริการ" เป็นต้น ภายหลังจากเข้าร่วม WTO แล้ว เป็นช่วงที่เศรษฐกิจจีนพัฒนาเร็วที่สุด ทั้งเป็นช่วงที่มีการปฏิรูประบบการบริหารของรัฐเร็วที่สุดในช่วง 60 ปีที่ผ่านมา
(Min/Lin)
|