ศ.หาน ชื่นชมว่า ท่อนโหมโรงของเพลงชาติจีนสั้น ๆ เพียง 6 ท่อน แต่เสมือนเพลงโหมโรงของละครเพลงขนาดใหญ่ ได้บรรจุเนื้อหาทั้งหมดของเพลง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญของนักแต่งทำนองเพลง
ขณะกล่าวถึงเนื้อเพลงของเพลงชาติจีน ศ.หานกล่าวว่า "ประโยคแรกของเพลงชาติคือ "ลุกขึ้นเถิด มวลชนผู้ไม่ปรารถนาเป็นทาส" ถือเป็นเสียงตะโกนเพื่อระดมกำลังอย่างเร่งด่วน และก็เป็นเสียงเรียกร้องจากหัวใจของผู้ที่รักชาติ ประโยคที่สองมีความว่า "ให้เลือดเนื้อผองเรา ก่อเป็นกำแพงเมืองจีนขึ้นใหม่" นี่แสดงให้เห็นว่า ประชาชาติจีนไม่ยอมย่นย่อท้อถอย ไม่ว่าประเทศใดก็ตามล้วนไม่สามารถรุกรานประเทศจีนให้พ่ายแพ้ได้ ต่อจากนั้น ทำนองเพลงเป็นเสียงกระแทกหนักแน่น เหมือนการตักเตือนด้วยความรักอย่างสุดซึ้งว่า ประชาชาติจีนถึงกาลวิกฤตยิ่ง ต่อจากนั้น บันไดเสียงไต่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งแสดงให้เห็นกระแสคลื่นต่อต้านศัตรูของชาติที่นับวันร้อนแรงยิ่งขึ้น และมีความหมายที่ดูถูกผู้รุกรานและศัตรูต่าง ๆ เพื่อบอกให้ทราบว่า ชะตากรรมของศัตรูย่อมประสบความพ่ายแพ้ เนื้อร้องมีความว่า ทุกผู้จักเปลื้องปลดเสียงกู่ร้องสุดท้าย ลุกขึ้นเถิด ลุกขึ้นเถิด ลุกขึ้นเถิด เราผองหมื่นชนใจเดียว ประจันไฟปืนของศัตรู รุกเข้า ประจันไฟปืนของศัตรู
ประโยคสุดท้ายของเพลงชาติจีนคือ "รุกเข้า รุกเข้า เข้าไป" ซึ่งมีพลังและเต็มไปด้วยความมั่นใจ แสดงให้เห็นว่า ประชาชนจีนก้าวคืบหน้าไปอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่
ท่านผู้ฟังคะ เมื่อได้ยินเพลงชาติจีนในโอกาสต่าง ๆ เช่นการแข่งขันกีฬาระหว่างประเทศ หรือกิจกรรมสำคัญ ๆ ในโลก หวังว่า ท่านจะนึกถึงคำบรรยายของศ.หานและรายการของวันนี้ เนื่องในโอกาสสาธารณรัฐประชาชนจีนสถาปนาขึ้นครบรอบ 60 ปี ดิฉันผู้ดำเนินรายการใคร่ขอให้ท่านผู้ฟังทั้งหลายร่วมกันอวยพรให้ประเทศจีนพัฒนาก้าวหน้าและเจริญรุ่งเรื่องยิ่ง ๆ ขึ้น สำหรับรายการครั้งนี้ ขอจบลงเพียงเท่านี้ สวัสดีค่ะ 1 2
|