ช่วงวันชาติจีนนี้ ที่มหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง มีการจัดแสดงมหากาพย์ดนตรีและนาฏลีลา เรื่อง "ฟู่ ซิง จือ ลู (Fu Xing Zhi Lu)" ซึ่งแปลว่า "เส้นทางแห่งการฟื้นฟู" มหากาพย์เรื่องนี้สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลอง 60 ปี การสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนโดยเฉพาะ การบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ 169 ปี นับตั้งแต่ปี 1840 เป็นต้นมา ด้วยการแสดงเป็นเวลา 2 ชั่วโมงครึ่ง ทำให้ผู้ชมสัมผัสได้ถึงเส้นทางประวัติศาสตร์ที่เลี้ยวลดคดเลี้ยวและน่าชื่นชมของประชาชาติจีน รวมถึงการใฝ่หาอนาคตที่แจ่มใส จนได้รับความชื่นชอบจากผู้ชมอย่างมาก รายการวันนี้ ขอเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับมหากาพย์ดนตรีและนาฏลีลาเรื่องนี้ค่ะ

ที่ท่านกำลังฟังอยู่นี้เป็นการแสดงมหากาพย์เรื่อง "เส้นทางแห่งการฟื้นฟู" ซึ่งเป็นผลงานของผู้กำกับระดับยักษ์ใหญ่และนักแสดงที่มีชื่อเสียงทั้งหมดกว่า 3,200 คน มหากาพย์เรื่องนี้มีการจัดแสดงไปแล้วกว่า 10 รอบ สร้างความสะเทือนใจแก่ผู้ชมอย่างมาก

นายจาง ฉี่ฉาง ชาวกรุงปักกิ่งวัย 76 ปีกล่าวว่า มหากาพย์เรื่องนี้ มีภาพประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ อลังการ มีความสง่าผ่าเผย และความตื่นเต้นเร้าใจ

"มีความอลังการ ผสมผสานกันอย่างลงตัวทั้งแสง สี เสียง เล่าเรื่องตั้งแต่สมัยปี 1840 มาจนถึงปัจจุบัน ทำให้เกิดความรักชาติอย่างเป็นระบบ และปลุกเร้าใจเป็นอย่างยิ่ง การที่เรามีวันนี้ก็เพราะบรรดาวีรชนผู้ล่วงลับไปแล้วจำนวนนับไม่ถ้วนที่ได้เสียสละชีวิตและเลือดเนื้อในการต่อสู้กันระหว่างชั่วคนหนึ่งสู่อีกชั่วคนหนึ่ง จนแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว ซาบซึ้งใจจริงๆ"

ปี 1964 นายจาง ฉี่ฉางเคยชมมหากาพย์ดนตรีและนาฏลีลาอีกเรื่องหนึ่ง ชื่อ "ตง ฟาง หง (Dong Fang Hong)" ซึ่งแปลว่า "บูรพาแดง" ที่กรุงปักกิ่งเช่นกัน ซึ่งเป็นการแสดงเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 15 ปีจีนใหม่ และยังเป็นที่นิยมมาจนถึงทุกวันนี้

ด้วยเหตุนี้ ในสายตาของผู้ชมในสมัยนี้ จึงคาดหวังว่า "เส้นทางแห่งการฟื้นฟู" อย่างน้อยต้องสามารถเทียบเท่า หรือดีที่สุดต้องก้าวล้ำ "บูรพาแดง" ให้ได้ ซึ่งสื่อมวลชนส่วนใหญ่เห็นว่า เทียบเท่าได้จริงๆ

มหากาพย์ "เส้นทางแห่งการฟื้นฟู" ใช้เวลาเตรียมงานกว่า 1 ปี มีผู้เข้าร่วมการแสดงทั้งสาขาวรรณคดี ดนตรี นาฏลีลา ภาพยนตร์และโทรทัศน์ นักประพันธ์มหากาพย์เรื่องนี้กล่าวว่า ให้ความสำคัญด้านการรังสรรค์ในหลากมุม ฉะนั้น จึงไม่คิดจะไปเปรียบเทียบกับเรื่องใด โดยต้องการเพียงให้มีแหวกแนวเท่านั้น

นายจาง จี้กาง หัวหน้าผู้กำกับกล่าวว่า มหากาพย์เรื่องนี้เป็นการ

แสดงออกของจิตใจแห่งประชาชาติจีน จึงควรใช้แนวคิดที่มีเอกลักษณ์พิเศษสุด เสียงเพลงและนาฏลีลาที่ดีที่สุดมาแสดงภาพแห่งประวัติศาสตร์และอนาคต เขากล่าวว่า

"ผมมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าเป็นอย่างยิ่งที่จะทำให้เป็นมหากาพย์ทางดนตรีและนาฏลีลาที่ใหม่เอี่ยม สร้างความแปลกใหม่แก่ผู้ชม ประเทศจีนในทุกวันนี้ ไม่เหมือนเมื่อเพิ่งสถาปนาประเทศ เราจึงต้องใช้ภาษาใหม่และศิลปะรูปแบบใหม่ ด้วยเหตุนี้ เราจึงวางแผนการทำงานฉบับแล้วฉบับเล่าเพื่อให้งานออกมาสมบูรณ์ที่สุด"

นอกจากความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ แล้ว รายละเอียดของการแสดงก็มีความสำคัญยิ่ง นายจาง จี้กาง หัวหน้าผู้กำกับกล่าวว่า

"ชุดของคณะร้องประสานเสียงควรเป็นสีอะไร ทรง

อะไร กี่เพ้า กระโปรงสั้น หรือเสื้อเชิร์ต ส่วนคอปกและสิ่งประดับหน้าอกนั้น เราก็แก้ไปแก้มาหลายสิบครั้ง เด็กผู้หญิงต้องติดดอกไม้หรือไม่ ไม่ติดก็เรียบเกินไป แล้วจะติดตรงไหน บนศีรษะ หน้าอก ไหล่ ดอกใหญ่หรือดอกเล็ก ในที่สุดตกลงว่าติดตรงกกหู ใกล้ๆ คอ รายละเอียดแต่ละที่ล้วนปล่อยไม่ได้ เพราะทุกส่วนล้วนเป็นการแสดงออกและสื่อความหมายแห่งความเป็นจีนในทุกวันนี้ ศิลปินในปัจจุบันควรขบคิดเรื่องราวของประวัติศาสตร์อย่างลุ่มลึก ขณะเดียวกัน ก็ควรมีความสามารถในการพิจารณาถึงสุนทรียภาพทางศิลปะของยุคสมัยนี้อีกด้วย"

มหากาพย์เรื่อง "เส้นทางแห่งการฟื้นฟู" ได้รับการชื่นชมจากผู้ชมทุกเพศทุกวัย หญิงสาวชื่อ หวาง หนาน กล่าวว่า มหากาพย์เรื่องนี้มีความสมจริง มีความสวยงาม น่าประทับใจมาก

"มหากาพย์นี้แสดงให้เห็นถึงเหตุการณ์สำคัญๆ ในแต่ละยุคอย่างคลาสสิก ฉากต่างๆ ตรงกับจินตนาการ สวยงามมาก ในฐานะคนจีน และคนหนุ่มสาวแห่งยุคสมัยใหม่ รู้สึกว่าจิตวิญญาณได้รับการชำระล้าง และรู้สึกภาคภูมิใจมาก"