วันนี้ ยังเป็นวันหยุดของชาวจีนในช่วงเวลาสัปดาห์ทองอยู่ค่ะ ซึ่งยาวถึง 8 วัน สิ่งที่เห็นได้ชัดที่สุดคือ ตลาดของจีน ไม่ว่าอาหาร หรือ เสื้อผ้า และท่องเที่ยว ต่างมีความคึกคักมาก รายการวันนี้ เรามาพูดถึงตลาดผลไม้กันบ้างนะคะ

ตอนใต้ของกรุงปักกิ่ง มีตลาดขายส่งผลิตผลทางการเกษตรชื่อซินฟาตี้ เป็นตลาดที่มีพื้นที่กว้างใหญ่มากถึง 2.5 แสนตารางเมตร จำหน่ายผักและผลไม้ เนื้อประเภทต่างๆ น้ำมัน สินค้าทางน้ำ และใบชา เป็นต้น แผงขายประจำประมาณ 5,000 แผง มีลูกค้าประจำกว่า 8,000 ราย ทุกวันมีลูกค้ากว่า 6 หมื่นคน จำหน่ายผักวันละประมาณ 13 ล้านกิโลกรัม ผลไม้ประมาณ 15 ล้านกิโลกรัม หมู 1,600-1,800 ตัว แพะ 2,000 ตัว วัว 150 ตัว และสินค้าทางน้ำ 1,200 ตัน เมื่อปีที่แล้ว ยอดการจำหน่ายสินค้าในตลาดมากถึง 7,800 ล้านกิโลกรัม คิดเป็นเงินกว่า 26,000 ล้านหยวน เป็นอันดับแรกของตลาดประเภทเดียวกันในประเทศ

กรุงปักกิ่งเป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม มีประชากรประจำกว่า 14 ล้านคน ผู้สังจญไปมาประมาณ 5 ล้านคน ชาวต่างชาติประมาณ 5 หมื่นคน เป็นเมืองใหญ่แห่งการบริโภค ทุกวัน กรุงปักกิ่งต้องการผัก 17 ล้านกิโลกรัม ผลไม้ 18 ล้านกิโลกรัม หมู 14,000 ตัว ส่วนผักและผลไม้ที่ขายส่งจากตลาดซินฟาตี้นั้น มีจำนวน 70-80%ของตลาดปักกิ่ง โดยเฉพาะผลไม้นำเข้า กินสัดส่วนตลาด 90% ขึ้นไป

เมื่อวันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา เมื่อ 1 เดือนที่แล้ว ที่ตลาดซินฟาตี้ ได้จัดพิธีริเริ่มโครงการทางด่วนอาร์ 9 เพื่อส่งผลไม้คุณภาพดีของไทยเข้าสู่ตลาดปักกิ่ง นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรไทย นายรัฐกิจ มานะทัต เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศจีน และเจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรจีนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าร่วมพิธี โดยคาดว่า การเปิดเส้นทางด่วนอาร์ 9 นี้ จะอำนวยโอกาสให้ชาวปักกิ่งได้ลิ้มรสผลไม้ไทยราคาถูก และจะผลักดันการแลกเปลี่ยนเศรษฐกิจ และการค้าระหว่างจีนกับไทยให้เจริญเติบโตยิ่งขึ้น

เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีไทยเดินทางมาเยือนประเทศจีน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศไทยที่มาพร้อมกันได้ลงนามในพิธีสารเกี่ยวกับข้อกำหนดการตรวจสอบเชื้อโรคของผลไม้ไทยที่ขนส่งมายังประเทศจีนโดยผ่านประเทศที่สาม กับผู้อำนวยการสำนักงานใหญ่ตรวจสอบคุณภาพและกักกันโรคแห่งชาติจีน ตามพิธีสารฉบับนี้ ตั้งแต่นี้ไป ผลไม้ไทยที่ถูกต้องตามกฎหมายนั้น สามารถขนส่งเข้าประเทศจีนโดยทางด่วนอาร์ 9 ทางด่วนสายนี้ จะเริ่มต้นจากจังหวัดมุดหารทางอีสานของไทย ผ่านประเทศลาวและเวียดนาม มาถึงเมืองผิงเสียงเขตปกครองตนเองชนชาติจ้วงกวางสีของจีน เมื่อเทียบกับการขนส่งทางทะเล การขนส่งทางบกดังกล่าวจะลดเวลาขนส่งให้น้อยลงเป็นอย่างมาก ทำให้รักษาคุณภาพและความสดของผลไม้ได้อย่างดี กล่าวได้ว่า จะส่งเสริมการนำเข้าและส่งออกของทั้งสองประเทศให้ราบรื่นยิ่งขึ้น และเป็นการได้รับผลประโยชน์จากการสร้างเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนด้วย

นายรัฐกิจ มานะทัต เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศจีนกล่าวว่า จีนเป็นประเทศขนาดใหญ่ที่มีประชากร 1,300 ล้านคน มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง ระดับการใช้ชีวิตของคนจีนได้เพิ่มคุณภาพมากขึ้นเรื่อยๆ มีกำลังสั่งซื้อดี แต่ไหนแต่ไรมา จีนเป็นตลาดส่งออกผลไม้สำคัญของไทย ไทยส่งออกสินค้ามายังจีนคิดเป็นมูลค่าประมาณ 5-6 แสนล้านบาทต่อปี พร้อมกับการลงนามในสนธิสัญญาว่าด้วยการสร้างเขตการค้าเสรีจีน-ไทย ผลไม้ไทยปลอดภาษีอากร จะมีกำลังแข่งขันทางตลาดที่ดี

นายจาง อี้ สี่ ประธานกรรมการตลาดซินฟาตี้กล่าวว่า ตลาดจีนยอมรับผลไม้ไทยมาโดยตลอด ถ้าผลไม้ไทยที่ส่งมาจากทางด่วนอาร์ 9 ถึงกรุงปักกิ่งนั้น สดกว่า และถูกกว่า ตลาดซินฟาตี้ยินดีที่จะสร้างเวทีให้ผลไม้ไทย เข้าสู่ตลาดปักกิ่ง

ท่านผู้ฟังคะ ช่วงเวลานี้ ปักกิ่งมีผลไม้หลายชนิด เช่น แอปเปิ้ล สาลี่ พุทรา และท้อ ซึ่งเป็นผลไม้เมืองหนาว ผลไม้ไทยได้รับความนิยมจากชาวจีนมานานแล้ว หวังว่า ในอนาคต ชาวจีนจะมีโอกาสชิมรสชาติของผลไม้ไทยมากยิ่งขึ้น รายการเศรษฐกิจจีนวันนี้ ขอจบลงเพียงเท่านี้ สวัสดีค่ะ