ยาชนิดต่างๆเกี่ยวข้องกับสุขภาพอย่างใกล้ชิด เป็นอาวุธสำคัญที่มวลมนุษย์ใช้ต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บมาตลอด เนื่องจากอุตสาหกรรมการผลิตยาของจีนเดินตามแบบประเทศอื่นมาเป็นเวลานาน ความสามารถในการวิจัยและผลิตยาใหม่จึงค่อนข้างไม่มีประสิทธิภาพที่ดีพอ ปีหลังๆนี้ รัฐบาลจีนมีนโยบายที่เอื้อต่อการวิจัยยาใหม่และส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมผลิตยาหลายชุด องค์กรวิจัยและวิสาหกิจผลิตยาพากันเร่งดำเนินโครงการวิจัยและผลิตยาใหม่ รายการวันนี้ ผมขอกล่าวถึงความคืบหน้าดังกล่าวครับ
เมื่อเร็วๆนี้ สำนักงานยานครเซี่ยงไฮ้ของสภาวิทยาศาสตร์จีนประกาศผลสำเร็จที่นวัตกรรมการผลิตยาใหม่ที่มีชื่อว่า "หยันซวนอันถั่วซาซิง" เป็นยาปฏิชีวนะที่ใช้รักษาโรคแบคทีเรียประเภทฟลูโอโรควิโนโลน (Fluoroquinolone) ซึ่งเป็นยาชนิดแรกของจีนวิจัยและผลิตเองทุกขั้นตอน ข่าวแจ้งว่า ยาฟลูโอโรควิโนโลน เป็นยาต้านแบคทีเรียหลัก 1 ใน 3 ที่คนจีนใช้ ก่อนหน้านี้ ยาชนิดนี้นำเข้าจากต่างประเทศทั้งหมด ศาสตราจารย์เฉิน ไข่เซียนจากสำนักงานยานครเซี่ยงไฮ้ของสภาวิทยาศาสตร์จีนกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า นักวิทยาศาสตร์ใช้ความพยายามอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 16 ปีจึงประสบผลสำเร็จ และการทดสอบยาในขั้นคลินิก เขากล่าวว่า "ผลการทดสอบขั้นคลินิกแสดงว่า หยันซวนอันถั่วซาซิงมีสรรพคุณที่ไม่แพ้ยาประเภทฟลูโอโรควิโนโลน ที่ำกำลังใช้อยู่ในปัจจุบัน ที่น่าสนใจกว่านี้คือ ความปลอดภัยของยา และสภาพที่ยาซึมซับเข้าและขับถ่ายออกจากร่างกายดีกว่ายานำเข้าด้วยซ้ำ หยันซวนอันถั่วซาซิงได้ใบรับรองจากสำนักงานควบคุมอาหารและยาแห่งชาติจีนเมื่อวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา และจะเริ่มจำหน่ายตามร้านขายยาหรือโรงพยาบาลตั้งแต่กรกฎาคมนี้"
ทุกวันนี้ มียาใหม่ที่จีนวิจัยและผลิตโดยอาศัยลำแข้งของตนเองกว่า 100 ชนิด ที่กำลังเข้าสู่การทดสอบขั้นคลินิกอยู่ นอกจากนี้ ยังมียาชนิดใหม่อีกจำนวนไม่น้อยที่ผ่านการทดสอบขั้นคลินิกแล้วและรอคำอนุมัิติให้ผลิตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ทว่าสิ่งที่ไม่ควรปฏิเสธคือ ความสามารถในการวิจัยและผลิตด้วยตนเองของอุตสาหกรรมยาของจีนยังคงอ่อนแอมาก ขณะนี้จีนมีวิสาหกิจผลิตยาหลายพันแห่ง แต่ส่วนใหญ่ไม่มีศูนย์วิจัยของตนเอง ซึ่งกล่าวโดยทั่วไปแล้ววิสาหกิจจีนยังไม่มีศักยภาพเพียงพอในการวิจัยและผลิตยาใหม่ ปัจจุบัน ยาที่เป็นเคมีภัณฑ์ที่วิาสหกิจจีนผลิตประมาณ 97% เป็นยาที่ผลิตจากการทำตามแบบ ยาที่มีลิขสิทธิ์ของตนเองไม่ค่อยมี ยังผลให้ต้นทุนในการผลิตและราคายาแพง
เพื่อแ้ก้ปัญหาดังกล่าว เมื่อปี 2006 รัฐบาลจีนได้กำหนดให้การวิจัยและผลิตยาใหม่เป็นโครงการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระยะยาว ศาสตราจารย์ซัง กั๋วเว่ย สมาชิกสภาวิศวกรรมศาสตร์จีน ผู้รับผิดชอบโครงการนี้แนะนำว่า จนถึงปี 2010 การคลังส่วนกลางจะจัดสรรเงิน 5300 ล้านหยวน เพื่อสนับสนุนการวิจัยยาใหม่ทั้งหมด 970 รายการ "เรามีเป้าหมายกับโรคร้ายแรง 10 ชนิดที่คุกคามสุขภาพมนุษยชาิติ พยายามผลิตยาใหม่ 30 ชนิดที่จีนมีลิขสิทธิ์สมบูรณ์ เพิ่มความสามารถในการประดิษฐ์คิดค้นและสร้างผลงานทางนวัตกรรมในการผลิตยาใหม่ นอกจากนี้ จีนจะพัฒนาวิสาหกิจผลิตยาจำนวนหนึ่งให้มีความสามารถในการแข่งขันระดับสากล"
ข่าวแจ้งว่า โครงการวิจัยและผลิตยาใหม่ที่สำคัญของจีนกำหนดหัวข้อวิจัยไว้เกือบ1000 ประการ มหาวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์หลายแห่งและวิสาหกิจผลิตยาที่มีชื่อเสียงของจีนจะปฏิบัติงานวิจัยตามหัวข้อดังกล่าว ศาสตราจารย์จัง ปั๋วหลี่ สมาชิกสภาวิศวกรรมศาสตร์ และอธิการบดีมหาวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์นครเทียนสินกล่าวว่า "แพทย์แผนจีนและยาสมุนไพรจีนสะท้อนถึงเอกลักษณ์ของจีน นับเป็นผลผลึกทางสติปัญญาของประชาชาติจีน จึงมีศักยภาพในการแข่งขันระดับสากล จุดสำคัญในการทำงานของเรา คือวิจัยและผลิตยาใหม่ในการรักษาโรคเส้นเลือดในหัวใจและสมองตีบ โครงการวิจัยของมหาวิทยาลัยเราได้รับงบประมาณจากรัฐบาลกว่า 10 ล้านหยวน"
ในฐานะที่เป็นองค์กรวิจัยทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีชั้นสูงสุดของจีน สภาวิทยาศาสตร์จีนถือการวิจัยยาใหม่เป็นประเด็นสำคัญในการทำงาน และกำหนดแผนปฏิบัิติงานอย่างรอบคอบ นายจัง จือปิน อธิบดีกรมเทคโนโลยีชีววิทยาแ่ห่งสภาวิทยาศาสตร์จีนอธิบายมาตรการส่งเสริมการวิจัยและผลิตยาใหม่ว่า "1.ให้ความสำคัญในการวิจัยขั้นพื้นฐาน เพิ่มความสามารถในการรังสรรค์ประดิษฐ์เพื่อผลงานนวัตกรรม 2.เพิ่มกำลังในพัฒนาสหวิทยาการ เร่งกระบวนการผลิตยา สภาวิทยาศาสตร์จีนกำลังพิจารณาที่จะสร้างเครือข่ายวิจัยและผลิตยา และเครือข่ายรักษาความปลอดภัยของสิ่งมีชีวิตในกรณีที่เกิดโรคติดต่อร้ายแรงระบาด สองเครือข่ายดังกล่าวเป็นเวทีที่จะทำให้ทรัพยากรยากับขั้นตอนการผลิตใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น ซึ่งดีต่องานการผลิตยา"
นายจัง จือปินเน้นว่า การเพิ่มความสามารถในการวิจัยและผลิตยาใหม่ต้องให้ความสำคัญกับการผสมผสานการผลิตกับงานวิจัย ดังนั้น สภาวิทยาศาสตร์จีนได้ก่อตั้งองค์กรส่งเสริมผลงานนวัตกรรมในการผลิตยา ผลักดันให้หน่วยงานวิจัยร่วมมือกับวิสาหกิจผลิตยาอย่างใกล้ชิด ประกันให้ผลงานทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีพัฒนาเป็นยาสำเร็จรูปโดยเร็ว
|