หลังจากซ้อมใหญ่แล้ว พอวันจริงเขาให้ชาวต่างชาติถือธงจีน เราก็โบกธงจีนทักทาย ร้องตะโกนคำขวัญ ก่อนที่จะถึงขบวนเราจะมีขวบทหาร ดิฉันตื่นเต้นมากจริงๆ เพราะอยากจะบอกว่า ถ้าได้เห็นวันนั้นจริงๆ ก็จะทราบว่า ประเทศจีนนั้นยิ่งใหญ่แค่ไหน เราในฐานะอาจจะเป็นคนไทยคนเดียว เท่าที่ทราบนะคะ แล้วก็ชาวไทยชาวจีนก็มีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมานาน ประเทสทั้งสองก็เป็นมิตรต่อกันอันดี เวลาไปเดินขบวน ส่วนหนึ่งในใจก็ชื่อชมกับความยิ่งใหญ่ของสาธารณรัฐประชาชนจีน อีกส่วนหนึ่งก็ภาคภูมิใจเหมือนกับว่าเพื่อนได้มาร่วมยินดีกับเพื่อนอย่างนั้นละค่ะ เพราะฉะนั้น เป็นเรื่องชื่นชมมาก เพื่อนฝรั่งเขาก็บอกว่า โอ๋ นี่เป็นโอกาสเดียวในชีวิตนะ ทุกคนมีความสุข แล้ววันนั้นอากาศดีมาก ท้องฟ้าสว่าง ฟ้าใส มีเมฆขาวน้อยๆ ประดับพองาม และทุกคนก็ยิ้มแย้มแจ่มใส คนร่วมขบวน ไม่ว่าคนที่มาดู ดิฉันจับใจตั้งแต่ท่านประธานาธิบดีหูจิ่นเทา ท่านนั่งรถตรวจแถว ความจริงภาษาจีนดิฉันไม่ดีเลย ดิฉันได้ยินท่านทักอยู่สองประโยค ประโยคหนึ่งดูเหมือนจะแปลว่า สหายทั้งหลายสวัสดี พออีกประโยคแปลว่า สหายทั้งหลายลำบากนะ หรืออะไรทำนองนั้น เพราะใช้คำว่า"ซินขู่เลอ" ดิฉันก็รู้สึกชื่นชมว่า นี่เป็นความรู้สึกของผู้ใหญ่ที่มีต่อผู้น้อย ทั้งทหารหรือแม้แต่ประชาชนก็น่าจะชื่นชม เพราะว่า ผู้นำมีน้ำใจดีอย่างนี้ เมื่อเราเดินนั้นเราก็เห็นว่า ที่จัตุรัสเทียนอันเหมินทางด้านที่เป็นเสาธงชาติเป็นอนุเสาวรีวีรชนประชาชน มีผู้คนมากมาย มีการแปรตัวอักษรและอะไำรหลายอย่าง และคนดูก็เต็มไปหมด วันนั้น อันที่หนึ่งก็คือ ชื่นชมเพราะได้เห็นอะไรที่ยิ่งใหญ่มาก ก่อนหน้านั้นมีผู้สื่อข่าวเขามาสัมภาษณ์ เขาถามว่าคุณรู้สึกยังไงในการแสดงแสงยานุภาพของจีน ดิฉันก็บอกเขาไปว่า อันนี้มันเป็นธรรมดา ประเทศไหนก็คงต้องทำอย่างนี้ เพราะเป็นการประกาศให้ประชาชนแน่ใจว่า รัฐบาลนั้นสามารถปกป้องประเทศ สามารถคุ้มครองประชาชนได้ เพราะฉะนั้น ดิฉันจึงไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องแปลกอะไร แล้วเขาก็ยังถามต่อว่า คิดว่าจีนจะรุกรานประเทศอื่นไหม ดิฉันก็บอกว่า ไม่เคยคิดเลย เพราะว่าผู้นำจีนทุกท่านก็จะพูดเสมอว่า ประเทศจีนจะเป็นมิตรกับทุกประเทศ ไม่ว่าประเทศเล็กหรือใหญ่โดยเท่าเทียมกัน เราก็มั่นใจอย่างนั้นนะคะ เพราะฉะนั้นบรรยากาศในวันนั้นเป็นบรรยากาศที่สนุก และประเทศจีนนั้นดิฉันเชื่อว่าเป็นหนึ่งเดียวในโลกที่มีชนหลายกลุ่มรวมกันถึง 56 กลุ่ม ทุกคนเป็นพี่น้อง อยู่ร่วมกันด้วยดี อยากให้ท่านผู้ฟังวิืทยุซีอาร์ไอภาคภาษาไทยได้มาเห็น เพราะความยิ่งใหญ่อย่างนี้ น่าชื่นชมจริงๆ น่าชื่นชมแทนประชาชน น่าชื่นชมกับรัฐบาล ...... เมื่อเราเลิกขบวนแล้ว พวกดิฉันคุยกัน อาจารย์อังกฤษบอกว่า วันนี้ท่านมีความสุขมาก ท่านอายุ 70 ปีแล้วนะคะ ท่านชื่นชมกับรัฐบาลจีนที่จัดงานได้ดี ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีหมด แม้เป็นชาวต่างชาติก็ชื่นชม ดิฉันก็เห็นด้วยนะคะ พวกเราชื่นชมด้วยตรงนี้ แล้วก็รู้สึกว่า ประเทศจีนนั้นเป็นประเทศที่มีไมตรีจิตต่อเพื่อนบ้าน มีไมตรีจิตต่อชาวต่างชาติที่เข้ามา อย่างในปักกิ่ง ดิฉันเป็นคนพูดภาษาจีนได้น้อยมาก แม้แต่คนขายของก็ดี คนผ่านไปมาที่พบกันก็ดี เวลาเรายิ้มแย้ม เขาก็เป็นมิตร ถ้าเราไม่รู้ทาง บางคนก็พยายามช่วยแนะนำช่วยบอก ตรงนี้เป็ยข้อน่ารักมาก ดิฉันมาจีน เพราะว่ามหาวิทยาลัยภาษาต่างประเทศปักกิ่งกับมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่เป็นคู่สัญญาแลกเปลี่ยนทางวิชาการ ส่วนใหญ่แลกเปลี่ยนอาจารย์กัน ดิฉันมาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 9 ทุกครั้งก็รู้สึกว่าประเทศจีนเปลี่ยนแปลงไปในทางที่เจริญขึ้น ดีขึ้น...... เมื่อวันแรกที่เราไปซ้อมเดิน สถานีโทรทัศน์ปักกิ่งได้ถามดิฉันว่า คุณรู้สึกยังไงกับการเปลี่ยนแปลงของจีน การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องดีนะคะ ความทันสมัย ความเจริญเป็นเรื่องดี