รายการครั้งที่แล้วได้เสนอเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับพล.ต.จาง จี้กาง (Zhang Jigang,1958) ผู้กำกับการแสดงชื่อดัง ค้างไว้ตรงที่ละครเรื่อง "อี ป่า ซวน จ่าว" (Yi Ba Suan Zao) หรือ "ลูกจ้อเปรี้ยวกำหนึ่ง" วันนี้เชิญฟังเรื่องราวอื่นๆ ของเขาต่อค่ะ
มีคนวิเคราะห์ว่า ผลงานของ พล.ต.จาง จี้กางสามารถปลุกระดมผู้คนได้ และสามารถทำให้หลั่งน้ำตาได้เช่นกัน ผลงานที่ทำให้เขามีชื่อเสียงมากที่สุดคือ การแสดงในพิธีเปิดงานโอลิมปิกเกมส์ 2008 ปักกิ่ง ซึ่งตัวเขาเองก็กล่าวว่า "เป็นเกียรติสูงสุดและเป็นการสร้างสรรค์ครั้งสำคัญที่สุดในชีวิตแห่งศิลปะการแสดง"
พล.ต.จาง จี้กางเป็นผู้กำกับการแสดงครึ่งแรกของพิธีเปิดงานโอลิมปิกเกมส์ 2008 เขากำกับด้วยวิธีที่แสดงให้เห็นความยิ่งใหญ่อลังการ และความละมุนละไม ซึ่งเป็นงานที่เขาถนัดอยู่แล้ว ทำให้ผู้ชมสำผัสได้ถึงอารยธรรมโบราณที่รุ่งโรจน์ของจีน เขากล่าวว่า แนวคิดตั้งแต่หลักก็คือ จะทำให้ผู้ที่ยังไม่รู้จักเมืองจีนอยากสัมผัสถึงความงามของจีน
"ตอนที่ผมทำการแสดงสำหรับพิธีเปิดงานโอลิมปิกเกมส์ 2008 ปักกิ่ง รวมทั้งพิธีเปิดและพิธีปิดงานพาราลิมปิกนั้น สิ่งที่คิดก็คือ จะต้องสร้างเกียรติยศเพื่อมาตุภูมิ ทำให้ลูกหลานชาวจีนทุกคนรู้สึกภาคภูมิใจ ขณะเดียวกัน ทำให้ประชาชนประเทศต่างๆ ทั่วโลกมีโอกาสได้ทำความรู้จักและเพิ่มความเข้าใจอย่างแท้จริงเกี่ยวกับประเทศจีน ฉะนั้น งานนี้จึงเป็นการสร้างเกียรติยศเพื่อมาตุภูมิ"
พล.ต.จาง จี้กางต้องการจะให้ผลงานของเขา "อยู่ในหลักเหตุผล และอยู่เหนือการคาดหมาย" การจะทำให้ผู้ชมมีความรู้สึกเช่นนี้มิใช่เรื่องง่าย แต่ถึงทำยากก็จะต้องทำ ช่วงเวลากว่า 3 ปีในการเตรียมการแสดงงานกีฬาโอลิมปิก เขากับเพื่อนร่วมงานประมาณ 300 คนทำงานวันละ 18-19 ชั่วโมง เปิดประชุมหารือนับ 1,000 ครั้ง เขากล่าวว่า ก่อนหน้านั้นไม่เคยกลัวแพ้ แต่สำหรับงานกีฬาโอลิมปิก มีความกังวลต่อทุกส่วนที่คาดคิดไม่ถึงหรือทำได้ไม่สมบูรณ์พอ ฉะนั้นจึงเกิดความกังวลขึ้นมาแบบไม่เคยมีมาก่อน
ซึ่งมาจากความเร่งด่วนในด้านการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ แต่ก็นำไปสู่ความสำเร็จเช่นกัน ระหว่างการสร้างสรรค์ต่างๆ วิธีการที่พล.ต.จาง จี้กางใช้บ่อยๆ คือ "รื้อใหม่" "แก้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด" อย่างละครเรื่อง "อี ป่า ซวน จ่าว" (Yi Ba Suan Zao) หรือ "ลูกจ้อเปรี้ยวกำหนึ่ง" เขารื้อใหม่มาแล้วกว่า 20 ครั้ง ส่วนการแสดงสำหรับพิธีเปิดงานกีฬาโอลิมปิกนั้นรื้อไปกี่หนนั้นจำไม่ได้เลย เขากล่าวว่า
"เรายังสามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ขึ้นมาได้หรือไม่ เราจะปลดปล่อยตัวเองอย่างไร ทุกครั้งที่ผมพบว่าประเด็นนี้เป็นการซ้ำรอยผู้อื่นหรือทำตามผลสำเร็จของผู้อื่นนั้น ก็ถือใช้การไม่ได้ ก็จะต้องรื้อใหม่ ความทุกข์และความสุขทั้งหมดของผมล้วนเกิดขึ้นบนเส้นทางการสร้างสรรค์เช่นนี้"
พล.ต.จาง จี้กางไม่ยอมให้ผลงานชิ้นใดซ้ำรอยผู้อื่นหรือแม้กระทั่งผลงานในอดีตของตนเอง ทั้งนี้ก็ได้สร้างแรงกดดันต่อผู้ออกแบบท่าเต้น ผู้กำกับการแสดง และนักแสดงทั้งหลายด้วย อย่างผลงานล่าสุดที่ชื่อ ละครเพลงและนาฏลีลาเรื่อง "ฟู่ ซิง จือ ลู่" (Fu Xing Zhi Lu) หรือ "เส้นทางแห่งการฟื้นฟู" ก็ได้มาจากแนวคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ เช่นนี้
หลิว ซิง เจ้าหน้าที่ฝ่ายความคิดสร้างสรรค์เล่าให้ฟังว่า
"เมื่อทีมงานคิดไม่ออก เขาก็จะให้ทุกคนปิดตา 5 นาที และห้ามส่งเสียง เมื่อคิดประเด็นใดประเด็นหนึ่งได้แล้ว เขาก็จะยิ้มแย้มหรือแสดงอาการราวกับเด็กเล็ก ในช่วงระดมความคิดนั้น เขาจะเรียกทุกคนมาคุยกัน คุยไปพลางแทะเม็ดก๋วยจี๊ไปพลาง จำไม่ได้ว่ากินเม็ดก๋วยจี๊ของเขาไปมากเท่าไรแล้ว"
ละครเพลงเรื่อง "เส้นทางแห่งการฟื้นฟู" ประสบความสำเร็จครั้งใหญ่อีกครั้ง พล.ต.จาง จี้กางก็รู้สึกโล่งอก แต่เขาระบุว่า เขายังไม่เคยสร้างผลงานที่สมบูรณ์ที่สุดขึ้นมา ผลงานที่ดีที่สุดจะเป็นเรื่องต่อไปเสมอ
|