ประตูทางเข้า
สวัสดีครับคุณผู้ฟังทุกท่าน รายการสถานีต่อไปวันนี้ ผมจะพาท่านผู้ฟังที่มีปัญหาทางสายตาไปพบกับแสงสว่างของโลกอันสวยสดงดงาม และเป็นการเพิ่มเติมแหล่งช้อปปิ้งแห่งใหม่ให้กับท่านที่กำลังวางแผนจะมาช้อปปิ้งที่กรุงปักกิ่งครับ
บังเอิญว่าเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แว่นสายตาที่ผมใส่อยู่เป็นประจำนั้น ได้รับอุบัติเหตุจากการเล่นกีฬาฟุตบอล เกิดขาหักขึ้นมา ขาของแว่นนะครับ ไม่ใช่ขาของผู้ดำเนินรายการ
เลยจำเป็นต้องออกไปหาซื้อกรอบแว่น แบบที่เคยใส่เป็นประจำ เพราะเข้าใบหน้ามากที่สุดแล้ว จะเปลี่ยนไปใส่ทรงอื่นก็คงไม่เหมาะ อาจจะไม่ดูดี หรือดูแปลกตาจนอาจเกิดการขาดความมั่นใจเอาได้
ครับ แว่นตานั้น ประโยชน์ของมันก็คือ ทำให้สายตาของเราที่เสื่อสภาพสามารถมองเห็นได้เป็นปกติ แต่ทว่าด้วยตัวของมันเอง ก็กลายเป็นเครื่องประดับด้วย และก็กลายเป็นแฟชั่น ถึงกับว่าวัยรุ่นสมัยนี้ที่มีสายปกติยังไปหาซื้อเฉพาะกรอบแว่นมาใส่ เพื่อเสริมบุคลิกตัวเองให้ทันสมัย หรือบางคนซื้อแว่นกันแดดมา ก็ไม่ได้ใช้งานให้ตรงวัถตุประสงค์ของมัน กลับเอามาเอาผมเป็นเครื่องประดับไปซะงั้น
จริงๆ แล้ว แถวบริเวณที่พักของผมก็มีร้านขายแว่นตาอยู่จำนวนมาก เพราะใกล้กันนั้นเป็นที่ตั้งของโรงพยาบาลตาของกรุงปักกิ่ง มีคนมารักษาโรคเกี่ยวกับตาไม่เว้นแต่ละวัน และเด็กที่เริ่มใส่แว่นตาก็มักจะมาตรวจที่นี่ เมื่อตรวจเสร็จก็จะเดินออกมาตรวจวัดสายตาและเลือกแว่นกันที่นี่
ผมสังเกตมานานแล้ว ว่าแว่นสายตาอันแรกในชีวิตนั้น ส่วนใหญ่จะเหมือนกับบัตรประชาชนใบแรก เพราะมักจะดูไม่ได้ และไม่ภูมิใจจะอวดให้ใครดู แต่แว่นที่ค้างอยู่บนดั้ง เราเดินไปไหน มันก็ยื่นหน้าไปก่อนเสมอ จะถอดมันทิ้งซะก็จะมองไม่เห็น ก็จำต้องใส่มันไป ทั้งที่มันไม่ได้ดูดีเลย ดังนั้น พอมีโอกาสได้เลือกตัดแว่นอันที่สอง เราจึงมักเลือกอย่างพิถีพิถัน เพราะผ่านประสบการณ์เลวร้ายมาแล้ว
ผมเองก็เช่นกัน ผ่านการทำแว่นสายตามากนักต่อนักแล้ว และร้านที่ตั้งอยู่รอบโรงพยาบาลนั้น ก็มีแต่กรอบที่แสนเชย อีกทั้งยังมีราคาแพงเกินจะรับได้
ยอมออกแรงเดินทางไปกับรถไฟใต้ดินที่แสนสะดวกสบายสักชั่วโมงเดียว แล้วได้อยู่รายรอบด้วยแว่นตาเป็นหมื่นๆ แสนๆ ชนิด ให้เลือกเพลินทั้งวันจะไม่ดีกว่าหรือ แถมยังราคายุติธรรม โดยไม่ต้องต่อรองมากมายด้วย
บรรยากาศสบายๆ ในอาคาร ทั้งแบบกันแดด และสายตา
1 2 3 4
|