ตลอด 60 ปีที่ผ่านมา และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในรอบ 30 ปีแห่งการปฏิรูปและเปิดประเทศ รัฐบาลจีนให้ความสำคัญกับงานด้านบุคลากร จึงส่งผลให้มีจำนวนบุคลากรที่มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนสถานการณ์การมีงานทำในจีนขณะนี้นั้น นายอิ่น เว่ยหมิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรบุคคลและการประกันสังคมจีนให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอว่า จะยึดหลักการตลาด เพื่อแสดงบทบาทของรัฐในการส่งเสริมการมีงานทำ และแก้ไขปัญหาการมีงานทำ ซึ่งเป็นปัญหาที่กลุ่มคนต่างๆ กำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้
นายอิ่น เว่ยหมินกล่าวว่า ตลอด 60 ปีที่ผ่านมา จีนสร้างระบบและกลไกใหม่ๆ ด้านการอบรม คัดสรร และการกระตุ้น งานด้านบุคลากรจนได้รับผลสำเร็จใหญ่หลวง จนถึงปลายปีที่แล้ว บุคลากรประเภทต่างๆ มีจำนวนมากถึง 140 ล้านคน
พร้อมๆ กับการพัฒนาของสังคมและการปฏิรูประบบบุคลากร กำลังโดยรวมของงานด้านบุคลากรเข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ ส่วนทัศนะต่อบุคลากรก็เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ การประชุมว่าด้วยระบบบุคลากรแห่งชาติครั้งที่ 1 ของจีน ซึ่งจัดไปเมื่อปี 2003 ได้กำหนดมาตรฐานบุคลากรขึ้น นายอิ่น เว่ยหมินกล่าวว่า
"คำนิยามเกี่ยวกับบุคลากรในอดีตไม่สอดรับกับสภาพในปัจจุบันอีกแล้ว แต่ก่อนเน้นเพียงวุฒิการศึกษาหรือสถานภาพประการเดียว แต่ขณะนี้จะเน้นบทบาทของบุคคลในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมด้วย"
เมื่อมีจำนวนบุคลากรเพิ่มขึ้น สิ่งที่ตามมาก็คือ ปัญหาการมีงานทำ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรบุคคลและการประกันสังคมจีนกล่าวว่า ปีนี้ทั้งปีผู้หางานทำกว่า 24 ล้านคน ขณะที่ตำแหน่งงานใหม่ๆ มีเพียง 12 ล้านตำแหน่งเท่านั้น ฉะนั้น ภาวะแรงงานล้นตลาดจึงทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น ทำให้สถานการณ์การมีงานทำในปัจจุบันยังคงล่อแหลมมาก
"การแก้ปัญหาการมีงานทำนั้น ประการแรก ต้องยืนหยัดในทิศทางการตลาด จัดสรรทรัพยากรด้วยการตลาด ประการที่ 2 รัฐมีความรับผิดชอบในการส่งเสริมการมีงานทำ ซึ่งเป็นหน้าที่ที่ไม่อาจบ่ายเบี่ยงได้ คือ หนึ่ง ต้องกำหนดนโยบาย สอง ต้องอำนวยความสะดวก และสาม ต้องให้บริการ"
ตั้งแต่ปลายปีที่แล้วถึงต้นปีนี้ วิกฤตการเงินฉุดอัตราการว่างงานของจีนให้ขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี คือ สูงถึงร้อยละ 4.3 เมื่อเผชิญสถานการณ์เช่นนี้ กระทรวงทรัพยากรบุคคลและการประกันสังคมพร้อมใจออกมาตรการ 7 ประการเพื่อส่งเสริมการมีงานทำอย่างเต็มที่
นอกจากนี้ ด้านการประกันสังคม ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับประชาชนอย่างแนบแน่นนั้น คณะรัฐมนตรีจีนมีมติว่า นับแต่ปี 2009 นี้เป็นต้นไป จะดำเนินโครงการนำร่องระบบประกันชราภาพในเขตชนบทด้วยรูปแบบใหม่ โดยจะจัดเกษตรกรเข้าไว้ในระบบประกันชราภาพด้วย ซึ่งมีความหมายสำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างยิ่ง นายอิ่น เว่ยหมินกล่าวว่า
1 2
|