หมู่บ้านเหอเกื้อจวงเป็นหมู่บ้านไม่ใหญ่นักที่อยู่ทางภาคตะวันออกของกรุงปักกิ่ง มีประชากรทั้งหมดราว 1,000 คน อยู่ติดกับศูนย์ศิลปะ 798 ชื่อดังของกรุงปักกิ่ง ชาวบ้านที่นี่ส่วนใหญ่มีรายได้จากการให้เช่าบ้านเป็นสำคัญ แต่เนื่องจากหลายปีมานี้มีคนมาเช่าบ้านในบริเวณนี้เพิ่มมากขึ้น ทำให้บรรยากาศของหมู่บ้านมีความเลวร้ายลง เมื่อ 2 ปีก่อน คณะกรรมการของหมู่บ้านเหอเกื้อจวงได้มอบการเช่าบ้านทั้งหมดให้คนกลางเข้ามาดูแล แล้วดำเนินการซ่อมแซมและการตกแต่งใหม่ จากนั้นจึงเปิดให้เช่าอีกครั้ง การกระทำเช่นนี้ ไม่เพียงแต่ทำให้ชาวบ้านในหมู่บ้านมีรายได้เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น หากยังทำให้ที่พักบริเวณนี้มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากด้วย
ขณะผู้สื่อข่าวเดินเข้าสู่ลานบ้านได้ยินเสียงเปาะแปะของน้ำไหล ลานบ้านแห่งนี้ทำด้วยอิฐสีเทาและกระเบื้องเคลือบสีแดง มีลักษณะเป็นอาคารแบบโบราณและสวยงาม ทำให้รู้สึกอยากลงนั่งชงชาจิบ พลางอ่านหนังสือไปด้วย หลังได้พักผ่อนอยู่ที่นี่อย่างสบายใจเป็นเวลากว่าครึ่งวันแล้วเพิ่งรู้ว่า ล้านบ้านแบบโบราณนี้ตกแต่งขึ้นจากลานบ้านธรรมดาๆของชาวนาทั่วไป
ปัจจุบน ในหมู่บ้านแห่งนี้มีลานบ้านแบบนี้กว่า 20 หลัง คณะกรรมการของหมู่บ้านเหอเกื้อจวงได้ให้บริษัทที่เป็นคนกลางมารับผิดชอบเรื่องการให้เช่าบ้าน ทำให้ชาวบ้านไม่ต้องหว่งใยกับเรื่องการหาคนมาเช่าบ้าน หากยังมีรายได้เพิ่มมากขึ้น นายหลิวฉังฉายชาวบ้านในหมู่บ้านเหอเกื้อจวงกล่าวว่า
ในอดีต เราได้ค่าเช่าบ้านเพียง 20,000-30,000 หยวนต่อปี หลังจากคณะกรรมการของหมู่บ้านของเราได้ซ่อมแซมและตกแต่งลานบ้านให้ใหม่แล้ว ปัจจุบัน ค่าเช่าบ้านได้เพิ่มขึ้นเป็น 90,000 หยวนต่อปี ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า2เท่าตัว รัฐบาลได้ดำเนินโนบายที่ให้ประชากรมีความร่ำรวย เราขอขอบคุณเป็นอย่างมาก
นโยบายที่ชาวบ้านเล่าถึงคือ นโยบายการประกอบกิจการบ้านเช่าโดยผ่านการซ่อมและการตกแต่งลานบ้านแบบเก่าให้เป็นแบบใหม่ นายหูเจื้อนเจี่ยน รองผู้อำนวยการของตำบลนี้กล่าวว่า เหตุที่เราดำเนินนโยบายนี้ก็มีสาเหตุหลายอย่าง
หนึ่งคือ ตัวเมืองกับชนบทเป็นหนึ่งเดียวกัน สองคือ เนื่องจากหมู่บ้านเราเป็นเขตที่ติดเชื่อมระหว่างตัวเมืองกับชนบท ดังนั้นจึงจะมีประชากรหลั่งไหลไปมาเพิ่มมากขึ้น และก็ส่งผลกระทบต่อการรักษาความมั่นคงทางสังคม และการรักษาความสะอาดด้วย นอกจากนั้น รัฐบาลจีนยังหมายจะให้ชาวนามีรายได้เพิ่มมากขึ้น เราจึงคิดกันว่า ต้องใช้วิธีการควบคุมบริหารโดยรวม แล้วชาวนาจะมีรายได้เพิ่มขึ้น และทั่วทั้งสังคมจะมีความมั่นคงยิ่งขึ้น ซึ่งแต่ละฝ่ายล้วนมีความพอใจและจะรับผลประโยชน์จากการใช้นโยบายนี้ด้วย
ผู้ที่เสนอความคิดคนแรกคือ นายหวูยุ่นเทา ซึ่งเป็นคนต่างมณฑล เมื่อปี 2003 หลังจากเขาได้เรียนจบจากต่างประเทศ เขาได้เช่าสวนผลไม้แห่งหนึ่งที่หมู่บ้านเหอเกื้อจวง และเปิดร้านขายอาหารฝรั่งที่นี่ หลายปีผ่านไป ร้านขายอาหารฝรั่งแห่งนี้ดำเนินไปได้อย่างดีและกลายเป็นแหล่งชุมนุนของชาวชาวต่างชาติ ด้วยประสบการณ์การค้าเป็นเวลาหลายปี นายหวูยุ่นเทาเห็นว่า รอบๆ หมู่บ้านแห่งนี้เป็นทุ่งนาที่สวยงาม และมีประชากรไม่มาก และยังมีสิ่งก่อสร้างดั้งเดิมอยู่ด้วย ซึ่งหาได้ยากในกรุงปักกิ่ง นอกจากนั้น ยังห่างจากศูนย์ศิลปะ 798 ไม่ไกลนัก ซึ่งจะทำให้หมู่บ้านแห่งนี้มีบรรยากาศการค้าที่คึกคักได้ ดังนั้น เขาจึงมีความคิดว่าควรตกแต่งบ้านธรรมดาของชาวนาให้สวยขึ้นและให้เช่าร่วมกัน
ความคิดของนายหวูยุ่นเทาได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมการหมู่บ้านเหอเกื้อจวง แต่บรรดาชาวบ้านมีเสียงตอบรับไม่ดีกว่าที่ควร เพื่อลดความวิตกของชาวบ้าน นายหวูยุ่นเทาได้เชิญเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบการดำเนินงานมาการเป็นพยาน และเซ็นต์สัญญากับทุกครอบครัว เพื่อเป็นการสัญญาว่าชาวนาทุกคนจะมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
เนื่องจากนายหวู่ยุ่นเทาได้ดำเนินการสำรวจและการเตรียมการอย่างรอบครอบ เมื่อข่าวการให้เช่าบ้านเหล่านี้แพร่ออกไป ก็ได้รับความสนใจอย่างมากนายหัวงเจื้องเหล่ยผู้เช่าบ้านที่นี่กล่าวว่า
ขณะผมแวะผ่านมาแถวนี้พบว่า ที่นี่มีการคมนาคมที่สะดวก ใกล้ทั้งศูนย์ศิลปะและมีลานบ้านซื่อเหอย่วนที่สวยงาม ผมชอบบรรยากาศที่นี่มาก นอกจากนี้ยังมีอากาศที่สดชื่น ผมจึงตกลงเช่าบ้านที่นี่และเปิดร้านขายของด้วย
ตามโครงการ ถึงปลายปี 2010 จะเสร็จสิ้นงานการตกแต่งบ้านทั้งหมดจำนวน 301 หลัง ซึ่งจะทำให้เขตนี้กลายเป็นเขตชุนนุนใหม่ที่เป็นศูนย์รวมธุรกิจด้านศิลปะ การให้เช่าบ้านแบบซื่อเหอย่วนที่คุณภาพดี ตลอดจนอาหารการกินที่เพียบพร้อม
|