ผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายนนี้ ธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกา หรือเฟด ประกาศว่า แม้ว่าการซบเซาทางเศรษฐกิจได้สิ้นสุดลงแล้ว แต่เนื่องจากแนวโน้มการพัฒนาเศรษฐกิจยังคงเปราะบางอยู่ เฟดจะดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำต่อไป โดยรักษาอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ระหว่าง 0-0.25% เพื่อส่งเสริมให้เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างมั่นคง
การตกลงของเฟดนี้ เช่นเดียวกับคาดการณ์ของตลาด วันเดียวัน เฟดประกาศคำแถลงภายหลังการประชุึมกำหนดนโยบายด้านการเงินว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สภาพการณ์ของตลาดการเงินไม่มีการเปลี่ยนแปลง หลายเดือนมานี้ อสังหาริมทรัพย์มีการเติบโต การบริโภคของครอบครัวเพิ่มมากขึ้น แม้ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจยังคงอ่อนแอในระยะเวลานี้ แต่เฟดคาดว่า การปรับปรุงทางนโยบายเพื่อส่งเสริมความมั่นคงของตลาดการเงินและสถาบันการเงิน รวมทั้งนโยบายส่งเสริมการคลังและการเงิน ตลอดจนกำลังของตลาด จะผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโตขึ้นเรื่อยๆ
เฟดชี้ว่า ค่าใช้จ่ายของครอบครัวสหรัฐอเมริกามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่ยังมีผลกระทบจากอัตราการว่างงานที่สูง รายได้ของประชาชนเพิ่มช้า มูลค่าอสังหาริมทรัพย์ตกต่ำ และสินเชื่อหด เป็นต้น ขณะคาดว่า แนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจ "ยังคงอ่อนแออยู่เป็นระยะหนึ่ง" นั้น เฟดยังระบุว่า ปัจจุบัน มีความเป็นไปได้น้อยที่จะเกิดเงินเฟ้อ เพราะมองจากสภาพที่อัตราการว่างงานสูง และโรงงานจำนวนหนึ่งยังปิดอยู่ อัตราเงินเฟ้อยังจะอยู่ระดับต่ำเป็นระยะหนึ่ง ดังนั้น เฟดจะใช้นโนบายส่งเสริมเศรษฐกิจและรักษาเสถียรภาพราคาสินค้าต่อไป รวมทั้งรักษาอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ระหว่าง 0-0.25%
สื่อมวลชนวิเคราะห์ว่า มองในภาพรวมแล้ว คำแถลงที่เฟดประกาศครั้งนี้มีท่าทีระมัดระวังมากขึ้นเมื่อเทียบกับฉบับที่ประกาศเมื่อเดือนกันยายนนี้ และให้ความสำคัญมากขึ้นแก่ความยากลำบากและการท้าทายทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน หากไม่ใช่เล็งผลเลิศอย่างเดียว สถิติที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วปรากฎว่า 3 ไตรมาสแรกปีนี้ เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น 3.5% นับเป็นการเติบโตครั้งแรกหลังเกิดวิกฤติการเงิน แต่นายเบน เอส. เบอร์นันเค ประธานเฟด เตือนหลายครั้งแล้วว่า ปัจจุบัน เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างเปราะบาง การเติบโตของเศรษฐกิจช้ามาก อัตราการว่างงานสูงถึง 9% สภาพการณ์เช่นนี้จะดำรงอยู่จนถึงปี 2011
นักวิเคราห์ชี้ว่า สาเหตุที่การตกลงของเฟดไม่ได้เกินกว่าคาดการณ์ของตลาด ก็เพราะว่า การเพิ่มอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ อาศัยอยู่ที่ระดับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหัฐอเมริกา แต่สถิติด้านเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาในช่วงนี้ดีบ้างเลวบ้าง แม้ว่าเกิดการเติบโตเป็นครั้งแรกในไตรมาสที่ 3 แต่การบริโภคของสหรัฐอเมริกาในเดือนกันยายนนี้กลับลดน้อยลงเป็นครั้งแรกในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา การที่จีดีพีของไตรมาสที่ 3 เติบโตอย่างรวดเร็วนั้น เป็นผลจากโครงการกระตุ้มของรัฐบาลที่ว่า "รถเก่าแลกเงินสด" เป็นหลัก กำลังฟื้นตัวภายในของเศรษฐกิจยังไม่ได้แสดงออกมา
นอกจากนี้ สภาพเกินดุลมากด้านการคลัง และอัตราการว่างงานที่สูงต่างก็เป็นปัจจัยที่เฟดต้องตระหนักถึง อัตราการว่างงานในเดือนตุลาคมของสหรัฐฯ อาจสูงถึง 10% ดังนั้น การพัฒนาเศรษฐกิจยังมีปัจจัยที่ไม่แน่นอน ขณะเดียวกัน ในระยะสั้นๆ นี้ รัฐบาลยังไม่มีแผนที่จะลดการเกินดุลทางการคลัง นายติม เกย์ธเนอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐอเมริกากล่าวว่า ปัจจุบัน ภาระหน้าที่อันดับแรกของรัฐบาลคือ ต้องฟื้นฟูเศรษฐกิจ และสร้างโอกาสการทำงาน
Zhou/Ldan
|