เมื่อเพิ่งสถาปนาสาถารณรัฐประชาชนจีน ในจำนวนประชากร ๖๐๐ ล้านคน จำนวนผู้ใหญ่ที่ไม่รู้หนังสือมีกว่า ๔๐๐ ล้านคน ในชนบท เกษตรกร 95% เป็นผู้ไม่รู้หนังสือ เมื่อปี ๑๙๘๖ จีนประกาศกฎหมายว่าด้วยการศึกษาภาคบังคับของสาธารณรัฐประชาชนจีน การศึกษาขั้นพื้นฐานได้พัฒนาอย่างรวดเร็ว ถึงปี ๒๐๐๑ จีนประกาศต่อทั่วโลกว่า จีนได้บรรลุเป้าหมายที่ให้เด็กในวัยเรียนทั่วประเทศได้รับการศึกษาภาคบังคับ และแก้ปัญหาผู้ใหญ่ไม่รู้หนังสือได้ในเบื้องต้น ในขณะเดียวกัน ประชาชนทั่วไปก็มีโอกาสมากขึ้นในการรับการศึกษาระดับอุดมศึกษา ถัวเฉลี่ยในปัจจุบัน ทุก ๑๐ คน ที่สมัครสอบเข้ามหาวิทยาลัย มี ๖ คนที่มีโอกาสสอบเข้าได้

ขณะนี้ ขบวนพาเหรดของผู้ทำงานด้านศิลปวัฒนธรรมกำลังเข้าสู่สนาม ขบวนนี้แสดงให้เห็นถึงผลสำเร็จในการพัฒนาวัฒนธนธรรมและศิลปะ

เมื่อปี ๑๙๔๙ จีนมีหอสมุดสาธารณะเพียง ๕๕ แห่ง สำหรับประชาชนทั่วไป แทบจะไม่มีโอกาสดูภาพยนตร์หรือละครโทรทัศน์ ในช่วง ๖๐ ปีที่ผ่านมา รัฐบาลลงทุนมหาศาลในการพัฒนาภารกิจวัฒนธรรม ปัจจุบัน จีนมีหอสมุดสาธารณะกว่า ๑๐๐๐ แห่ง และประชาชนทั่วไปใช้บริการฟรี

เพื่อให้เกษตรกรมีวิถีวัฒนธรรมที่หลากหลาย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินโครงการให้รายการวิทยุโทรทัศน์เข้าถึงทุกหมู่บ้าน ซึ่งได้แก้ปัญหาเกษตรกรในบางพื้นที่ไม่สามารถรับฟังรับชมรายการวิทยุและโทรทัศน์ได้

การปฏิรูปกลไกวัฒนธรรมที่จีนกำลังดำเนินอยู่นั้นทำให้ธุรกิจทางวัฒนธรรมนับวันคึกคักมีชีวิตชีวายิ่งขึ้น เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ภายใต้ภูมิหลังวิกฤตการเงินโลก จีนได้ประกาศแผนพัฒนาธุรกิจวัฒนธรรม นี่เป็นสัญลักษณ์แสดงให้เห็นว่า ธุรกิจวัฒนธรรมมีความสำคัญในยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ เพราะจะมีความหมายสำคัญยิ่งในการรับมือกับวิกฤตการเงินโลก ส่งเสริมการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจให้ดีขึ้น และการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมอย่างต่อเนื่อง