ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ จีนเคยนำหน้าโลกในด้านดาราศาสตร์ โหราศาสตร์ การเดินเรือข้ามมหาสมุทร คณิตศาสตร์ การทหารและศาสตร์อื่นๆ ที่ขึ้นชื่อที่สุดคือ 4 สิ่งประดิษฐ์ที่ยิ่งใหญ่ของจีนยุคโบราณ ได้แก่ กระดาษ เข็มทิศ ดินปืนและการพิมพ์ มาถึงยุคใกล้ จีนถูกประเทศลัทธิล่าเมืองขึ้นรุกราน เศรษฐกิจถอยหลัง ประกอบกับปัจจัยอื่นๆ จึงทำให้ระดับการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของจีนล้าหลัง เมื่อปี 1949 สาธารณรัฐประชาชนจีนสถาปนาขึ้น นักวิทยาศาสตร์จีนฟันฝ่าต่อสู้ท่ามกลางสถานการณ์ระหว่างประเทศที่ล่อแหลมและการปิดล้อมด้านเทคโนโลยีจากประเทศตะวันตก ผลิตลูกระเบิดปรมาณู ลูกระเบิดไฮโดรเจนและดาวเทียมของจีนเองภายในเวลาสั้นๆ
ในช่วง 40 ปีที่จีนดำเนินการปฏิรูปและเปิดประเทศ โดยเฉพาะช่วงหลายปีที่ผ่านมา จีนวางยุทธศาสตร์การสร้างสรรค์ประเทศด้วยนวัตกรรม ได้กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ของชาวจีน มีนวัตกรรมใหม่เกิดขึ้นอย่างไม่ขาดสาย เช่น กล้องโทรทรรศน์อวกาศ“เทียนเหยี่ยน” หรือ“ดวงตาสวรรค์” ดาวเทียม“หงอคง”ซึ่งเป็นดาวเทียมสำรวจสสารมืดในอวกาศ ดาวเทียม“ม่อจื่อ”ซึ่งเป็นดาวเทียมสื่อสารควอนตัม เรือดำน้ำ“เจียวหลง” เครื่องบินขนาดใหญ่ รถไฟความเร็วสูง การค้นพบ “น้ำแข็งติดไฟ” ใต้ทะเลหนานไห่ การปลูกข้าวด้วยน้ำทะเล ตลอดจนวิถีชีวิตใหม่แบบไร้เงินสดของชาวจีน ปี 2017 การเติบโตของเศรษฐกิจจีน 57.5% มาจากความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เกือบจะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ว่าให้ถึง 60% ก่อนปี 2020 นอกจากนี้ มีการยื่นขอสิทธิบัตร 138,200,0 ราย มากที่สุดในโลกต่อเนื่องกัน 7 ปี รัฐบาลจีนลงทุนในการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ 1.75 ล้านล้านหยวน คิดเป็น 2.12% ของจีดีพี มีการลงพิมพ์วิทยานิพนธ์ด้านวิทยาศาสตร์มากเป็นอันดับ 2 ของโลกติดต่อกัน 9 ปี ปี 2018 จีนเข้าสู่บัญชีรายชื่อประเทศที่มีดัชนีความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม 20 อันดับแรกขององค์การสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาโลก
ถึงแม้จีนนำหน้าโลกในหลายด้าน แต่เครื่องยนต์เครื่องบิน แผ่นชิปและเทคโนโลยีบางอย่างต้องนำเข้าจากต่างประเทศ การพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีภายในประเทศยังไม่ทั่วถึง ตัวเลขจากนิตยสาร Nature แสดงว่า ตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา ดัชนีการวิจัยระดับพื้นฐานของจีนอยู่อันดับ 2 ของโลกมาโดยตลอด ซึ่งรองจากสหรัฐอเมริกา แต่ดัชนีของ Nature เป็นเพียง 1 ใน 2 ของสหรัฐฯ เท่านั้น ทั้งนี้แสดงว่า จีนยังคงมีศักยภาพมากในด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรม
ภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจ ไม่มีประเทศใด สามารถแก้ปัญหาด้านความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมได้โดยลำพังฝ่ายเดียว ปีนี้ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนกล่าวกับบรรดานักวิทยาศาสตร์ระดับสุดยอดของจีนว่า จีนต้องยืนหยัดเดินหนทางการสร้างสรรค์ที่มีเอกลักษณ์ของจีน หลอมรวมกับการประดิษฐ์คิดสร้างนวัตกรรมของโลก เข้าร่วมการพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีของโลก ใช้ภูมิปัญญาจีนผลักดันการสร้างมนุษยชาติที่มีอนาคตร่วมกัน เมื่อเร็วๆ นี้ เขายังมีสาสน์ถึงการประชุม AI โลกครั้งแรก โดยย้ำว่า จีนยินดีร่วมมือกับประเทศต่างๆ ทั่วโลกเพื่อพัฒนาเทคโนโลยี AI ปกป้องความปลอดภัยของเทคโนโลยี AIและแบ่งปันผลการวิจัยเทคโนโลยี AI
ทั้งนี้แสดงให้เห็นว่า จีนถือความคิดสร้างสรรค์กับนวัตกรรมเป็นพื้นฐานของการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศมาโดยตลอด ในฐานะที่เป็นประเทศใหญ่ จีนยินดีร่วมมือกับวงการวิทยาศาสตร์ทั่วโลก เพื่อสร้างคุณูปการใหม่ให้กับความก้าวหน้าของวิทยาศาสตร์และการพัฒนาของมนุษยชาติ
Yim/Min/Cai