วันที่ 23 ตุลาคม นายวลาดีมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียพบกับนายจอห์น โรเบิร์ต บอลตัน ผู้ช่วยประธานาธิบดีสหรัฐฯ ฝ่ายกิจการความมั่นคงแห่งชาติที่อยู่ระหว่างการเยือนรัสเซีย การพบปะครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศจะถอนตัวออกจากการเป็นภาคีของสนธิสัญญาอาวุธนิวเคลียร์พิสัยกลาง ซึ่งสหรัฐฯ กับสหภาพโซเวียตลงนามเมื่อ 30 ปีก่อน สื่อมวลชนรายงานว่า ระหว่างการพบเจรจา นายปูตินได้ตอบโต้คำวิพากษ์วิจารณ์ของฝ่ายสหรัฐฯ ที่ว่ารัสเซียได้ละเมิดสนธิสัญญานี้มาหลายปี ส่วนนายบอลตันก็ตอบว่าคราวนี้มาก็ไม่ได้เพื่อเจรจาเรื่องสันติภาพ สองฝ่ายเจรจากันเป็นเวลา 90 นาที แต่ไม่มีข้อตกลงใดๆ เกี่ยวกับสนธิสัญญาดังกล่าว
เหตุใดสหรัฐฯ ต้องการถอนตัวออกจากสนธิสัญญาดังกล่าว คำตอบคือ เพื่อยุทธศาสตร์ “อเมริกาต้องมาก่อน” ก่อนอื่น สหรัฐฯ ต้องการเสริมสร้างแสนยานุภาพทางการทหาร และต้องการพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ นายทรัมป์เคยมีคำสัญญาในช่วงหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีว่า หากเขาได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี จะทุ่มเทกำลังพัฒนาการทหาร รวมทั้งเทคโนโลยีขีปนาวุธที่ทันสมัยที่สุด ประการที่สอง การเสริมสร้างศักยภาพด้านการผลิตอาวุธของสหรัฐฯ ต้องทำลายข้อบังคับบางอย่างในสนธิสัญญา
นอกจากนี้ การที่ทรัมป์พยายามหาข้ออ้างของการถอนตัวออกจากสนธิสัญญาอาวุธนิวเคลียร์นั้น ยังมีวัตถุประสงค์อีกสองประการ หนึ่งคือ เบี่ยงเบนความสนใจของคนภายในประเทศจากเหตุการณ์นักข่าวซาอุดิอาระเบียถูกสังหารในตุรกีไปเป็นเรื่องอื่น สอง พยายามหาเสียงสนับสนุนจากพ่อค้าอาวุธ ฝ่ายสนับสนุนการใช้ท่าทีแข็งกร้าวในกิจการระหว่างประเทศและกลุ่มอนุรักษ์นิยม ก่อนการเลือกตั้งระยะกลาง
Min/Yim/Ci