เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม สถานทูตจีนประจำประเทศไทย กระทรวงการต่างประเทศ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ร่วมกันจัดงานสัมมนา เนื่องในโอกาสความสัมพันธ์หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์จีน-อาเซียนครบรอบ 15 ปีในหัวข้อ “ความสัมพันธ์หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์จีน-อาเซียน ยุคใหม่ วิสัยทัศน์ใหม่” รศ. ดร. กิตติ ประเสริฐสุขรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์กล่าวเปิดงาน เอกอัครราชทูตหลู่ย์ เจี้ยน นาย สุริยา จินดาวงษ์ อธิบดี กรมอาเซียน กระทรวงการต่างประเทศได้แสดงปาถกฐาพิเศษ นาย เฉิน เต๋อไห เลขาธิการ สำนักเลขาธิการจีน-อาเซียนกล่าวปิดลาน มีนักวิชาการ ผู้แทนหน่วยงานรัฐ สถาบันวิจัย สถาบันการศึกษา สมาคม สื่อมวลชนและผู้แทนสถานทูตกว่า 200 คนเข้าร่วมงานสัมมนา
เอกอัครราชทูตหลู่ย์ กล่าวว่า ความสัมพันธ์หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์จีน-อาเซียนเป็นความสัมพันธ์ที่มีชีวติชีวาและสาระเนื้อหามากที่สุดในความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับประเทศคู่สนทนา และเป็นแบบอย่างที่ดีในความร่วมมือเอเชียแปสิฟิก นำมาซึ่งผลประโยชน์แก่ประชาชนกว่า 2000 ล้านคน ปัจจุบันสถานการณ์โลกมีความสลับซับซ้อน ปัจจัยความไม่แน่นอนมากมาย ลัทธิฝ่ายเดียวนิยมและลัทธิอนุรักษ์นิยมเพิ่มความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ทำให้กระบวนการพหุภาคีนิยมได้รับผลกระทบ กติกาโลกได้รับการท้าทาย ประเทศจีนและอาเซียนยืนหยัดในหลักการปฏิบัติต่อกันอย่างเท่าเทียม เคารพซึ่งกันและกัน เปิดกว้าง ยอมรับกัน ความร่วมมือเพื่อประโยชน์ร่วมกันซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งทั้งสองฝ่าย ยึดถือจิตวิญญาณ “ร่วมกันหารือ ร่วมกันสร้าง ร่วมกันแบ่งปัน” ดำเนินความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมภายใต้กรอบหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง และได้ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม
เอกอัครราชทูตหลู่ย์ เจี้ยนเน้นย้ำว่าเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่มีความสลับซับซ้อน ประเทศจีนยืนหยัดที่จะเดินทางตามเส้นทางเปิดประเทศ ปฏิรูป ร่วมมือและชนะด้วยกัน ยืนหยัดในระบบเศรษฐกิจโลกแบบเสรีนิยมและระบบการค้าพหุภาคี ทำให้ผลจากการพัฒนาสู่ประชาชนทั่วไป ประเทศจีนยังคงดำเนินนโยบายต่างประเทศโดยเอาอาเซียนไว้ในส่วนสำคัญของการดำเนินนโยบายและใช้โอกาสความสัมพันธ์หุ้นส่วนทางยุทธิศาสตร์ครบรอบ 15 และภายใต้การชี้นำของวิสัยทัศน์ว่าด้วยความสัมพันธ์หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์จีน-อาเซียน 2023 ซึ่งจะมีแถลงในที่ประชุมผู้นำเอเชียนตะวันออกในเดือนพฤศจิกายน จีนและอาเซียนจะเสริมสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจทางการเมือง ยกระดับความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม ขยายความร่วมมือทางด้านความปลอดภัย สังคมและวัฒนธรรม ประสานความริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางกับวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน 2025 พัฒนาจีน-อาเซียนเป็นเครื่องจักรในการขับเคลื่อนภูมิภาคและโลก ประเทศจีนจะสนับสนุนการดำรงตำแหน่งเป็นประธานหมุนเวียนของไทยในอาเซียน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าไทยสามารถแสดงบทบาทโดดเด่น และผลักดันความสัมพันธ์จีน-อาเซียนก้าวสู่ระดับสูงขึ้นอีกระดับหนึ่ง
นายสุริยา จินดาวงษ์ อธิบดี กรมอาเซียน กระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า ตลอดระยะยาวนานที่ผ่านมา อาเซียน-จีนได้รักษาความสัมพันธภาพที่ดีที่มีความมั่นคง เสถียรภาพและเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกันภายในหลักการเคารพซึ่งกันและกันและปฏิบัติต่อกันอย่างเท่าเทียมกัน จีนเป็นประเทศแรกที่มีความสัมพันธ์หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์กับอาเซียน และเป็นหนึ่งในความสัมพันธ์หุ้นส่วนทางสนทนาที่มีการพัฒนารวดเร็วมากที่สุด ที่มีผลสำเร็จมากที่สุด ความร่วมมือทางด้านการเมือง ความปลอดภัย เศรษฐกิจ การค้าระหว่างอาเซียนกับจีนได้รับการพัฒนาอย่างมาก สถานการณ์ในทะเลจีนใต้มีการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้นซึ่งเป็นผลงานที่สำคัญที่อาเซียนและจีนได้ร่วมใช้ความพยายามร่วมกัน ความร่วมมือและชนะด้วยกัน ปีหน้าประเทศไทยจะทำหน้าที่เป็นประธานหมุนเวียนของอาเซียน ไทยจะปฏิบัติตามวาระที่ได้กำหนดไว้ ผลักดันการพัฒนาที่ยั่งยืน การเชื่อมโยงในภูมิภาค เชื่อมโยงประชาคมเอเซียตะวันออก ส่งเสริมความร่วมมือทางด้านความมั่นคงทางอาหาร ความปลอดภัยทางอินเตอร์เน็ต ป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย เชื่อมั่นว่าความสัมพันธ์อันดีระหว่างอาเซียน-จีนจะเป็นการสนับสนุนภารกิจนี้เป็นอย่างดี
นาย เฉิน เต๋อไห เลขาธิการฯ ได้กล่าวปิดงานสัมมาโดยกล่าวว่า ศูนย์จีน-อาเซียนในฐานะป็นองค์การระหว่างประเทศที่จัดตั้งโดยจีนและชาติสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ ซึ่งได้รับการจัดตั้งขึ้นมาในกระบวนการการพัฒนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างสองฝ่าย ตั้งแต่จัดตั้งในปี 2011 เป็นต้นมา ได้ดำเนินงานตามความเข้าใจตรงกันที่สำคัญที่ผู้นำได้ตกลงกันไว้ ได้ดำเนินโครงการต่างๆ ทางด้านการค้า การลงทุน การศึกษา วัฒนธรรม การท่องเที่ยวและสารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะนี้ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับอาเซียนพบโอกาสในการพัฒนาใหม่ โดยจะเน้นไปที่ทิศทางสำคัญและสาขาสำคัญของความร่วมมือ แสดงบทบาทสำคัญของข้อมูลข่าวสารและกิจกรรมทั้งหลาย ใช้ความพยายามร่วมกันกับทุกฝ่าย เพื่อผลักดันความสัมพันธ์หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์จีน-อาเซียนพัฒนาเชิงลึกต่อไป
นักวิชาการได้อภิปรายอย่างกว้างขวางในประเด็นที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์จีน-อาเซียน ความเชื่อมโยง แลกเปลี่ยนสังคม วัฒนธรรม ต่างก็เห็นพ้องต้องกันว่า เศรษฐกิจของจีนมีอนาคตที่สดใส เป็นแรงเคลื่อนเศรษฐกิจของภูมิภาคและของโลกต่อไป จีนพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีกับอาเซียน สนับสนุนบทบาทของอาเซียนในความร่วมมือภูมิภาค จีนเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญที่อาเซียนไว้วางใจได้ ความริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางกระตุ้นการลงทุนในโครงการพื้นฐานในภูมิภาค ส่งเสริมภูมิภาคนิยมและพหุภาคีนิยม ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสันติภาพของภูมิภาค ต่อความเจริญรุ่งเรือง สอดคล้องกับผลประโยชน์ของทุกฝ่าย ภายใต้สถานการณ์โดดเดี่ยวนิยม อนุรักษ์นิยมฟื้นตัวในปัจจุบัน เราควรผลักดันความร่วมมือ 10+1 10+3 การประชุมสุดยอดผู้นำเอเซียตะวันออก ประชุมภูมิภาคอาเซียนฟอรั่มเป็นต้น เร่งสำเร็จการเจรจา ความตกลงพันธมิตรทางการค้าระดับภูมิภาคหรือ RCEP ในขณะเดียวกันเพิ่มพูนความไว้วางใจกัน เสริมสร้างความร่วมมือทางทะเล พัฒนาทะเลจีนใต้เป็นทะเลแห่งสันติภาพ ความร่วมมือและเจริญรุ่งเรือง มีนักวิชาการหลายท่านคิดว่าการแลกเปลี่ยนสังคม วัฒนธรรมระหว่างจีนกับอาเซียนทวีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ทั้งสองฝ่ายควรให้ความสำคัญในความร่วมมือทางด้านการบริหารจัดการความปลอดภัยในการท่องเที่ยว อบรมอาชีวศึกษา การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมตามกระแสนิยมเป็นต้น ส่งเสริมความเข้าใจกัน ส่งเสริมความเชื่อมใจประชาด้วยท่าทีที่กระตือรือร้นและท่าทีที่เปิดกว้าง ยอมรับกัน