เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ขณะอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนประเทศปาปัวนิวกินี ได้พบปะกับผู้นำจากประเทศหมู่เกาะมหาสมุทรแปซิฟิกที่ได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีน ที่กรุงพอร์ตมอร์สบี เมืองหลวงของปาปัวนิวกินี โดยขณะหารือกับผู้นำตลอดจนผู้แทนรัฐบาลของประเทศเหล่านี้ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับประเทศเกาะมหาสุมทแปซิฟิก ได้ชูข้อเสนอ 4 ประการ ได้แก่ กระชับความไว้วางใจให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ร่วมเจริญรุ่งเรืองไปด้วยกัน เพิ่มพูนมิตรภาพระหว่างกัน และเฝ้ารักษาความเที่ยงธรรมให้คงไว้” เริ่มต้นยุคสมัยใหม่แห่งความสัมพันธ์จีนกับประเทศหมู่เกาะมหาสมุทรแปซิฟิก
จีนยึดหลักการที่ว่าจะประเทศใหญ่หรือเล็กล้วนมีความเสมอภาคเท่าเทียมกัน เคารพแนวทางพัฒนาที่ประเทศหมู่เกาะมหาสมุทรแปซิฟิกได้เลือกเอง ให้ความช่วยเหลืออย่างจริงใจแบบไม่มีเงื่อนไขทางการเมือง และให้ความช่วยเหลือต่อการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของประเทศหมู่เกาะมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ในยามตกทุกข์ได้ยาก
ฝ่ายตะวันตกหลังจากประสบความล้มเหลวในการว่าร้ายจีน ได้เริ่มหันมาเลียนแบบ เพิ่มการลงทุนและให้ความช่วยเหลือกับเขตมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ มุ่งที่จะตัดทอนกำลังและต่อต้านอิทธิพลของจีนที่นับวันเพิ่มมากขึ้น
สถาบันวิจัยนโยบายระหว่างประเทศโลวี่คลังสมองออสเตรเลียได้ประกาศรายงานฉบับหนึ่งเมื่อเดือนสิงหาคมปีนี้ว่า ตั้งแต่ปี 2013 รัฐบาลได้ลดเงินช่วยเหลือจำนวน 11,000 ล้านเหรียญสหรัฐ งบความช่วยเหลือของรัฐบาลออสเตรเลียได้ลดลงเป็นระดับ “ต่ำสุด” ซึ่งนายสกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า จะสนองเงินกู้ที่มีดอกเบี้ยต่ำจำนวน 200 ล้านเหรียญสหรัฐ ในการก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานให้กับเขตมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ นอกจากนี้ หนังสือพิมพ์ Post Courier ของปาปัวนิวกินีได้รายงานว่า นายไมก์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะออกเช็คช่วยเหลือจำนวน 60,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ให้กับเขตเอเชียแปซิฟิกในช่วงการประชุมผู้นำองค์กรเอแปกอย่างไม่เป็นทางการด้วย
จีนไม่ได้รู้สึกกังวลใดๆต่อความช่วยเหลือเหล่านี้ของตะวันตก เพราะถ้าความช่วยเหลือของตะวันตกปฏิบัติเป็นรูปธรรมได้ จะผลักดันการพัฒนาของเขตมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ได้อย่างแน่นอน เจ้าหน้าที่รัฐสภาปาปัวนิวกินีกล่าวว่า ปาปัวนิวกินีเป็นประเทศเล็ก ขนาดเศรษฐกิจเล็กมาก เมื่อก่อนไม่ได้อยู่ในสายตาเรดาร์การเมืองระหว่างประเทศ การสนับสนุนและความสัมพันธ์กับจีนได้เปลี่ยนสถานการณ์ดังกล่าว ปาปัวนิวกินีได้เข้าสู่ขอบข่ายเรดาร์การเมืองระหว่างประเทศแล้ว
(Yim/zheng)