ปธน.จีนกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมสุดยอดผู้นำอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรมเอเปก

2018-11-17 19:28:49 | CRI
Share with:

图片默认标题_fororder_20181117xjpyj1

วันที่ 17 พฤศจิกายน  นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนได้กล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมสุดยอดผู้นำอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรมของความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก(เอเปก) โดยชูข้อเสนอต่อทิศทางที่ถูกต้องในการพัฒนาเศรษฐกิจโลก  และแนวทางบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพให้แก่ประชาคมโลก  ปธน.สี เน้นว่า  ต้องยืนหยัดแนวทางที่เปิดกว้าง  พัฒนา  เชื่อมโยง  นวัตกรรม  และปฏิบัติตามกฎเกณฑ์  คัดค้านลัทธิกีดกันทางการค้า  และเอกภาคนิยมอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่  ปกป้องระบบการค้าพหุภาคีที่มีองค์การการค้าโลกเป็นหัวใจ  ชี้นำให้เศรษฐกิจโลกาภิวัตน์พัฒนาไปสู่ทิศทางที่เปิดกว้าง  เชื่อมโยง  เกื้อกูล  สมดุล  และได้รับชัยชนะร่วมกัน  ขณะเดียวกัน  นายสี จิ้นผิง ยังชี้ให้เห็นว่า  พร้อมไปกับการพัฒนาก้าวหน้าของประเทศ  จีนจะสร้างคุณูปการมากยิ่งขึ้นเพื่อความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันของโลก 

ปธน.สี ยังกล่าวว่า  ปัจจุบัน  เศรษฐกิจโลกาภิวัตน์เป็นกระแสมาแรง  แต่ลัทธิกีดกันทางการค้าและเอกภาคนิยม ทำให้เศรษฐกิจโลกถูกเมฆดำปกคลุม  การเลือกที่จะร่วมมือหรือเป็นปรปักษ์  เปิดกว้างหรือปิดกั้น  จะวินวินไปด้วยกันหรือได้ผลรวมเป็นศูนย์  เกี่ยวพันกับชะตากรรมและอนาคตของมนุษยชาติ  ทุกวันนี้  ประเทศต่างๆพึ่งพาอาศัยกันนับวันใกล้ชิดแนบแน่นยิ่งขึ้น  อันดับแรก ต้องยืนหยัดทิศทางการเปิดกว้าง  เพื่อบุกเบิกและขยายช่องทางการพัฒนา

图片默认标题_fororder_20181117xjpyj2

ปธน.สี เน้นว่า ต้องยืนหยัดทิศทางการพัฒนา  เพิ่มพูนความสุขของประชาชน  ทำให้กระบวนการการพัฒนาอย่างต่อเนื่องปี 2030 กลายเป็นยุทธศาสตร์การพัฒนาของประเทศตน  ส่งเสริมให้เศรษฐกิจ  สังคม  และสิ่งแวดล้อมพัฒนาอย่างกลมกลืนกัน  ผลักดันการพัฒนาตามสภาพจริงของประเทศตน  พัฒนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนที่เสมอภาคเท่าเทียมกันและสมดุลกันในขอบเขตทั่วโลก  ประเทศพัฒนาแล้วควรปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาของตนในการส่งเสริมการพัฒนาและให้ความช่วยเหลือ  ให้การสนับสนุนต่อประเทศกำลังพัฒนาให้มากยิ่งขึ้น

ปธน.สี กล่าวย้ำว่า  ต้องยืนหยัดแนวทางนวัตกรรม  บุกเบิกพัฒนาแหล่งเติบโตใหม่  ทุกประเทศต่างมีสิทธิ์ได้รับประโยชน์จากการนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี  ผลงานนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีไม่ควรจะเป็นเครื่องมือหาผลประโยชน์ของผู้คนจำนวนน้อย

ปธน. สี ยังระบุว่า  สงครามโลกสองครั้งที่ผ่านมาได้ให้บทเรียนอันยับเยินแก่ประชาชนทั่วโลก  จึงก่อตั้งโครงสร้างบริหารทั่วโลกที่มีสหประชาชาติเป็นใจกลาง  รวมถึงกองทุนการเงินระหว่างประเทศ  ธนาคารโลก  องค์การการค้าโลก  และกลไกอื่นๆ เป็นต้น  ถึงแม้ว่าโครงสร้างดังกล่าวยังไม่สมบูรณ์  แต่ถือเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญของสังคมมนุษยชาติ  ซึ่งได้แสดงบทบาทสำคัญต่อสันติภาพและการพัฒนาของโลกในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา  การที่ระบบจัดการบริหารเศรษฐกิจโลกจะมีความยุติธรรมและมีประสิทธิภาพ ก็ต้องพัฒนาให้ทันสมัยขึ้น

ปธน.สี  กล่าวเน้นอีกครั้งว่า  การร่วมกันสร้างข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางเป็นช่องทางความร่วมมือที่เปิดกว้าง  ขอให้ปฏิบัติตามหลักการพื้นฐานที่ร่วมปรึกษาหารือกัน  ร่วมสร้างสรรค์  และร่วมแบ่งปัน  ข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางจะเป็นโอกาสร่วมกันทั้งของจีนและของโลก  และเป็นหนทางที่มีอนาคตสดใสและกว้างไกลต่อการพัฒนาร่วมกัน

สุดท้าย  ปธน. สี  ประกาศว่า  จีนจะจัดการประชุมสุดยอดครั้งที่ 2 เพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศภายใต้กรอบหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ที่กรุงปักกิ่งในเดือนเมษายน ปี 2019  ขอเชิญมิตรสหายแวดวงอุตสาหกรรมและพาณิยชกรรมภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเข้าร่วมอย่างแข็งขัน  อีกทั้งยินดีต้อนรับผู้คนทั้งหลายเข้าร่วมงานมหกรรมสินค้านำเข้านานาชาติ(CIIE)ครั้งที่ 2 ของจีนในปีหน้าด้วย

 

(Yim/Zhou/Zhou)

  • เสียงข่าวประจำวัน (15-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (15-11-2567)

  • เสียงคุยกันวันละประเด็น (15-11-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (14-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (14-11-2567)

周旭